บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 6-7 แห่ง มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3.18 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายเติบโต 30%
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร LALIN กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตยอดขายที่ 2 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน ขณะที่ยอดรับรู้รายคาดว่าจะอยู่ที่ 1.65 พันล้านบาท เนื่องจากภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะเติบโต 3% และมีแนวโน้มขยายตัวได้ถึง 5% จากความต้องการของลูกค้าที่จะมีอยู่สูง
ดังนั้น ในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 6-7 โครงการ 3,183 ล้านบาท ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว เช่น ในย่านรามอินทรา-วงแหวน, เพชรเกษม 77, หพลโยธิน 54/1 -วัชรพล เป็นต้น
"ในปี 53 เรามีความพร้อมในการรุก หลังจากที่เราเงียบหายไปเป็นปีถึงปีครึ่ง เพราะด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายที่ผ่านมา ทำให้เราต้องรัดเข็มขัด แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป ทุกอย่างเริ่มดึขึ้น ซึ่งเราเริ่มเห็นตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน(ปี 52) ทำให้เราปรับตัวและพร้อมลุยในการพัฒนาโครงการในปี 53 อย่างเต็มที่"นายไชยยันต์ กล่าว
นายไชยยันต์ การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทในปีนี้ ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นแผนเข้าเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ประกอบกับ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเบื้องต้น คาดว่าจะมีการพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมความสูง 8 ชั้น ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาที่ดิน 2-3 แปลง ซึ่งจากการรุกตลาดคอนโดมิเนียมจะทำให้สัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 5% ของรายได้ ขณะที่รายได้หลักยังคงมาจากบ้านเดี่ยว รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์
นายไชยยันต์ กล่าวยอมรับว่า ยอดขายในปี 52 ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ว่าจะเติบโต 15% เล็กน้อย โดยคาดว่าจะเติบโตราว 13-14% เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ปี 52 บริษัทต้องรัดเช็มขัดในการลงทุน และการเปิดโครงการใหม่มีเพียง 3 โครงการ มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เปิดโครงการในช่วงปลายปี
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ พบว่าขณะนี้สถานการณ์มีทิศทางดีขึ้น ทำให้บริษัทหันมาสร้างทีมการตลาดเพิ่ม เพื่อรองรับกับการเปิดโครงการใหม่ในปี 53 โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม คาดว่าโครงการคอนโดมิเนียมจะสามารถเปิดขายได้ภายในปีนี้ และจะปิดการขายได้ภายในปีนี้หรือปีหน้า
สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดิน 500-600 ล้านบาทในช่วงกลางปี ซึ่งเป็นการซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปี 54 ส่วนโครงการที่เปิดในปีนี้ เป็นที่ดินที่บริษัทได้ทยอยซื้อในช่วงปีที่ผ่านมาภายใต้งบลงทุน 500-600 ล้านบาทเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมียอดขายรอโอน(backlog)ที่จะรับรู้ในปี 53 จำนวน 250 ล้านบาท จึงทำให้บริษัทมั่นใจผลดำเนินงานในปี 53 ว่าจะเป็นไปตามที่ประเมินไว้
พร้อมกันนั้น บริษัทยังวางงบการตลาดไว้ที่ 60 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ในการปรับโปรดักส์ใหม่ๆ ทั้งบ้านเดี่ยวในแบรนด์"LANCEO"ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าอายุ 35-45 ปี ขณะที่ทาวน์เฮ้าส์จะใช้แบรนด์ "Life is OK"(LIO)เจาะกลุ่มอายุ 25-35 ปี อีกทั้งยังรุกตลาดสร้างบ้านลักษณะ บ้านสั่งสร้าง ในสัดส่วนที่มากขึ้นเป็น 70% จากปีก่อน 20%