บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส คาดว่าในปี 53 รายได้ของบริษัทจะเติบโตเกิน 1 แสนล้านบาท โดยจะมีลูกค้าใหม่สุทธิ (Net Adds) มีจำนวน 1.5 ล้านราย พร้อมวางเป้าหมายรักษาส่วนแบ่งตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เกิน 50% ส่วนงบลงทุนปี 53 ตั้งงบแค่ราว 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่าการประมูลใบอนุญาต 3G ล่าช้าออกไป
แต่บริษัทหันมาจับมิอกับ บมจ.ทีโอที ซึ่งเป็นเจ้าของสัญญาร่วมการงานในการเปิดให้บริการ 3G เริ่มวันที่ 1 ก.พ. 53 ทำให้เอไอเอสจะมีทางเลือกในการใช้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายได้ทั้งจากเครือข่าย EDGE/GPRS ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ 3G
พร้อมกันนั้น บริษัทรุกตลาดสมาร์ทโฟน โดยนำเสนอ Nokia N900, BlackBerry New Bold เป็นต้น รวมทั้งยังนำเสนอบริการและสินค้าอื่นได้แก่ AIS 3G Aircard 7 Mbps, AIS App Store, MSN SIM , Mobile Pay wave และ Variety Superior Privilege
นายวิเชียร เมตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร ADVANC กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทคาดจะมีรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท จากมูลค่ารวมตลาดบริการโทรศัพท์มือถือที่คาดจะมีมูลค่า 2.5 แสนล้านบาท โดยตั้งเป้าบริษัทจะมีส่วนแบ่งรายได้ไม่ต่ำกว่า 50%
ขณะที่ รายได้ของปี 52 เชื่อมั่นว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในกรอบลดลงไม่เกิน 0 ถึง ลบ 3% แม้ว่าครึ่งปีแรกผลประกอบการของบริษัทจะติดลบค่อนข้างสูง แต่ช่วงไตรมาส 4/53 กล้บมาดีขึ้นและเชื่อว่าตัวลขจะออกมาตามที่วางไว้
ส่วนอัตราการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 52 บริษัทยังคงรักษาเท่าเดิมที่จ่ายระดับ 6.30 บาท/หุ้น และในปี 53 บริษัทไม่มีนโยบายเปลี่ยนแปลงอัตราการจ่ายปันผลจากปี 52
"หากบริษัทจ่ายเพิ่มก็จะเป็นภาระต่อไปที่จะต้องจ่ายอัตราสูงขึ้น ซึ่งในระยะยาวที่มีความเป็๋นไปได้ที่จะจ่ายมากว่า 6.30 บาท/หุ้น หากกำไรออกมาดี แต่บริษัทก็ต้องทำได้ต่อเนื่องเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น"นายวิเชียร กล่าว
สำหรับการลงทุนไในปี 53 นายวิเชียร กล่าวว่า บริษัทคงจะลงทุนไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท หลังจากการประมูลใบอนุญาต 3G สะดุดลง และเชื่อว่าปีนี้อาจจะยังไม่เห็นการประมูลเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะทำให้บริการ 3G บนเครือข่ายทีโอที โดยใช้ในรูปแบบดาต้าโรมมิ่ง ซึ่งคาดหวังว่าจะมีลูกค้าใช้ประมาณหลักหมื่นราย
แต่จะมีความร่วมมือเพิ่มเติมกับทีโอทีหรือไม่ บริษัทจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อการต่อสิทธิในการเข้าร่วมประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่น 2.1 กิ๊กกะเฮิร์ตซ
"การให้บริการร่วมกับทีโอที เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หลังการประมูลไลเซ่นส์ 3G หยุดชะงักไป และไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน แต่จะมีการลงทุนร่วมกับทีโอทีหรือไม่ ต้องดูรายละเอียด เพราะเราไม่อยากถูก disqualified การเข้าประมูล 3G"นายวิเชียร กล่าว
ขณะเดียวกันในปี 53 บริษัทคาดว่าจะมียอดลูกค้าใหม่สุทธิ 1.5 ล้านราย จากตลาดรวมปีนี้ที่คาดว่าจะมีลูกค้าใหม่ 3 ล้านราย ซึ่งหากเอไอเอสเพิ่มได้ 1.5 ล้านรายตามเป้าหมาย ก็จะทำให้บริษัทมีลูกค้ารวมแตะ 30 ล้านราย จากปัจจุบันที่มียอดลูกค้าประมาณ 28.5 ล้านราย
รวมทั้งในปี 53 บริษัทมองว่า content data service ยังคงการเติบโตได้มาก จากการให้บริการ wireless broadbrand ซึ่งจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 15%