ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนี้ (19 ม.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มสุขภาพ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าพรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งอาจสร้างความยากลำบากให้กับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการเปลี่ยนแปลงแผนยกเครื่องระบบดูแลสุขภาพ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 115.78 จุด หรือ 1.09% ปิดที่ 10,725.43 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 14.20 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 1,150.23 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 32.41 จุด หรือ 1.42% ปิดที่ 2,320.40 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1 พันล้านหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ 1.4 พันล้านหุ้น
หุ้นกลุ่มสุขภาพพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุด โดยดัชนี S&P หุ้นกลุ่มสุขภาพทะยานขึ้น 2% เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าภาวะชะงักงันด้านนโยบายในกรุงวอชิงตันอาจช่วยชะลอการยกเครื่องระบบการดูแลสุขภาพ และจะทำให้ผลกำไรของบริษัทประกันและบริษัทเวชภัณฑ์ไม่ได้รับผลกระทบ
รายงานระบุว่าผู้ลงคะแนนเสียงในรัฐแมสซาชูเซตส์กำลังตัดสินใจเลือกวุฒิสมาชิกคนใหม่ แทนนายเอ็ดเวิร์ด เคนเนดี สมาชิกพรรคเดโมแครตที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ปีที่แล้ว โดยการสูญเสียที่นั่งในวุฒิสภาสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของพรรคเดโมแครตที่จะลงมติต่อแผนยกเครื่องระบบการดูแลสุขภาพ
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มสุขภาพ กลุ่มประกัน และกลุ่มเวชภัณฑ์ทะยานขึ้นถ้วนหน้า รวมถึงหุ้นเอ็ทนา อิงค์ ซึ่งบริษัทประกัน พุ่งขึ้น4.2% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ปิดบวก 4.1% หุ้นไฟเซอร์ในกลุ่มเวชภัณฑ์ปิดบวก 2.6%
ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้น หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนให้กับหุ้นเซียนา คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคม นอกจากนี้คาดว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะได้รับความสนใจเมื่อตลาดเปิดการซื้อขายในวันพุธ หลังจากบริษัท ไอบีเอ็ม รายงานผลประกอบการเพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาส 4 ปี 2552
หุ้นแคดบิวรี ปิดบวก 6.2% หลังจากมีข่าวว่าแคดบิวรีเปิดทางให้คราฟท์ ฟู้ดส์ อิงค์ บริษัทผู้ผลิตอาหารรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกจากสหรัฐเข้าซื้อกิจการ หลังจากที่บอร์ดบริหารอนุมัติราคาเสนอซื้อที่สูงขึ้น แต่หุ้นคราฟท์ปิดลบ 0.6%
หุ้นซิตี้กรุ๊ปทะยานขึ้น 3.5% แม้ธนาคารเปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาส 4 มูลค่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ รวมถึงแบงค์ ออฟ อเมริกา, อีเบย์ อิงค์, เจนเนอรัล อิเล็กทริก, โกลด์แมน แซคส์, กูเกิล อิงค์, มอร์แกน สแตนลีย์ และเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนธ.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนม.ค. ส่วนวันศุกร์ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ