(เพิ่มเติม) MILL เผยบอร์ดหารือเลือกพันธมิตรใหม่วันนี้เน้นเสริมฐานทุนให้มั่นคง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 20, 2010 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ กรรมการบริหาร บมจ.มิลล์คอนสตรีลอินดัสทรีส์(MILL) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการพิจารณาข้อสรุปการคัดเลือกพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาถือหุ้น ซึ่งไมได้เป็นผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กด้วยกัน แต่จะเข้ามาช่วยในด้านการเสริมฐานทุนของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง

"รายละเอียดการเข้ามาร่วมลงทุนค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีทางเลือกของการเข้ามาร่วมทุน จึงต้องการให้มีผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทที่ชัดเจนก่อน กลุ่มทุนที่จะเข้ามมาจะช่วยทางด้านการเงินโดยเข้ามาในรูปแบบการถือหุ้นของบริษัท โดยไม่ได้อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กแต่อย่างใด"นายธิติพงษ์ กล่าว

ด้านผลประกอบการของบริษัทในปี 53 คาดว่ายอดขายจะเติบโตเป็น 2 เท่าของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ(GDP) ซึ่งหาก GDP ของไทยในปีนี้เติบโต 3.5% บริษัทคาดว่าจะยอดขายน่าจะเติบโตได้ 7% จากปี 52 ที่ทำยอดขาไยด้มีเกือบ 1 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 3-5% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 5-10%

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานคงค้างในมือ 1 แสนตัน และมีการใช้กำลังการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับปัญหาเรื่องสต็อกสินค้าในปีนี้บริษัทคาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะความผันผวนด้านราคาคาดว่าน้อยกว่าปีก่อน

ด้านนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร MILL กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจเหล็กในปี 53 เชื่อว่าจะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าปี 52 ปัจจัยหลักมาจากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนความต้องการใช้เหล็กมีมากขึ้น ประกอบกับ รัฐบาลมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมุ่งกระจายงบประมาณลงสู่ภาคก่อสร้างผ่านโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อาทิ โครงการเมกกะโปรเจ็คต์ และโครงการไทยเข้มแข็ง ส่งผลให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างเริ่มขยายตัวขึ้น

ทั้งนี้ MILL มีแผนจะขยายตลาดทั้งในประเทศ และตลาดส่งออกควบคู่กันไป รวมทั้งการเพิ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (High-Value Added) ลงสู่ตลาด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง และการขยายตลาดเหล็ก one bar (เหล็กเส้นที่มีการพัฒนารูปร่างโดยบั้งข้ออ้อยให้มีลักษณะเป็นเกลียวและสามารถใส่ coupler หมุนผ่านได้ตลอดทั้งเส้น) ที่เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 51 ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน MILL และบริษัท บี อาร์ พี สตีล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้แบ่งสายการผลิตแยกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อให้การผลิตและการบริหารงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดย MILL ผลิตและจำหน่ายเหล็กเส้นขนาดเล็ก 6-12 มม. และเหล็กรูปพรรณ เช่น เหล็กแผ่นตัว C เหล็กท่อ เป็นต้น ขณะที่ บี อาร์ พี สตีล ผลิตเหล็กเส้นขนาด 16-40 มม.ผลิตเหล็กเกลียวขนาด 20-40 มม.ผลิตเหล็กเพลา , เหล็กเหลี่ยม เหล็ก SPEC ต่างประเทศ เช่น ASTM JIS AUS และ MEWZ

นโยบายของทั้ง MILL และ บี อาร์ พี สตีล เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Value Added และลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีมากขึ้น ส่งผลดีทั้งในด้านกำไร และยอดขาย ซึ่งปัจจุบันกำลังการผลิตเหล็กเส้นอยู่ที่ 5.5 แสนตัน และเหล็กรูปพรรณอยู่ที่ 2.8 แสนตันต่อปี แต่ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 50-60% และคาดว่าจากการขยายในปีนี้คาดว่ากำลังการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้นเต็ม 100%

แนวโน้มราคาเหล็กในปีนี้ที่ทางสถาบันเหล็กคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 17 % จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และความต้องการใช้ที่มีมากขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจอย่างชัดเจน โดยจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังยึดนโยบายไม่มีการเก็งกำไรจากราคาเหล็ก แต่จะปฏิบัติบนพื้นฐานของคำสั่งซื้อที่แท้จริง มีนโยบายการขายและนโยบายสินค้าคงคลังที่ชัดเจน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ