นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)(SMT)คาดว่า รายได้รวมและกำไรจะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% หลังจากที่มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มเข้ามามาก โดยเฉพาะในกลุ่มชิ้นส่วนสมาร์ทโฟน ฮาร์ดดิสก์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งทำให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น
จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้บริษัทได้ลงทุน 150 ล้านบาทเพื่อเพิ่มเครื่องจักร และรับพนักงานเพิ่มอีกเท่าตัว เพื่อขยายกำลังการผลิตมารองรับ
นายพลศักดิ์ กล่าวว่า รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้มาจากสินค้าประเภท IC มากกว่า 40% จากคาดการณ์ว่ายอดขายจะเติบโต ตามแนวโน้มความนิยมของสมาร์ทโฟนและทัชโฟนที่กำลังบูมอย่างรุนแรงทั่วโลก ทำให้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าเพิ่มในระยะยาวไปจนถึงปลายปีนี้ ทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
นอกจากนั้น ปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ยุโรปเพิ่มอีก 1 ราย โดยเน้นที่สินค้า hi-end ที่มีอัตรากำไร(มาร์จิน)ค่อนข้างสูง หลังจากที่ไปเปิดตลาดในยุโรปแล้ว และ บริษัทยังมีแผนเปิดสาขาในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มอีก 2-3 ปีข้างหน้า
สำหรับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ ทำให้บริษัทได้ประโยชน์ โดยจะรับรู้รายได้ทั้ง 2 ด้าน แต่จ่ายเป็นเงินบาทมากกว่าดอลลาร์ แตกต่างจากบริษัทอื่นที่อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่บริษัทกลับได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ได้ทำประกันความเสี่ยงเพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินไว้แล้ว
"ได้ประโยชน์จากบาทแข็งตอนนี้ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับต้นปี 33.30 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนต่าง 0.50 บาท เป็นประโยชน์สำหรับบริษัท เพราะจ่ายบาทเยอะ"นายพลศักดิ์ กล่าว
ส่วนผลประกอบการในปี 52 คาดว่ายอดขายของบริษัทลดลงจากปี 51 ซึ่งเป็นไปตามอุตสาหกรรม แต่ในแง่ของการทำกำไรน่าจะเติบโตมากกว่า 25% เนื่องจากต้นทุนต่าง ๆ ลดลงมาก และมีสินค้า hi-end ที่มีมาร์จินสูงขึ้น โดยยอดขายปี 52 มาจากธุรกิจ IC หรือแผงวงจรไฟฟ้ารวม 30% ชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์(MMA) 70%
ทั้งนี้ งวด 9 เดือนแรกของปี 52 บริษัทมีกำไรแล้ว 189 ล้านบาท จากปี 51 ที่มีกำไร 201 ล้านบาท และคาดผลประกอบการไตรมาส 4/52 น่าจะดีกว่าไตรมาส 3/52 เพราะต้นทุนลดลง จึงทำให้เชื่อว่าผลประกอบการทั้งปี 52 จะดีกว่าปี 51 แม้ยอดขายจะน้อยกว่า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ในทุกผลิตภัณฑ์ แต่ปี 53 คาดว่าจะสูงขึ้น เพราะขยายเพิ่มกำลังการผลิตในส่วน IC อีก 70% ช่วยดึงมาร์จินให้สูงขึ้นมาอีก
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการบริษัทปลายเดือนก.พ.53จะมีวาระพิจารณาการจ่ายปันผลงวดครึ่งหลัง ปี 52 ด้วย