(เพิ่มเติม) KGI มีแผนออก DW ในปี 53 ราว 10 ตัว พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจ SBL เต็มสูบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 20, 2010 17:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) (KGI) ระบุว่าบริษัทมีแผนจะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์(DW)อ้างอิงหลักทรัพย์เพิ่มอีก 10 ตัว ภายในปี 53 หลังจากที่การออก DW 3 ตัวแรกได้รับความสนใจจากนักลงทุนพอสมควร

น.ส.นฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) หรือ KGI เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนจะลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายในธุรกรรมยืม-ให้ยืมหลักทรัพย์(SBL)สำหรับลูกค้ารายย่อย 50% จากเดิมที่คิดอยู่ในอัตราที่น้อยกว่า 0.025% ต่อวัน สำหรับลูกค้าที่มีมูลค่า-รายการ น้อยกว่า 10 ล้านบาท แต่ถ้ามีมูลค่า-รายการ มากกว่า 10 ล้านบาท ก็จะคิดในอัตรา 0.03% ต่อวัน

เนื่องจากมีโบรกเกอร์ได้หันมาทำธุรกิจ SBL มากขึ้น ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องการรักษาฐานลูกค้าไว้ ซึ่งการลดครั้งนี้ อาจจะส่งผลให้รายได้จากธุรกิจ SBL ลดลง แต่ก็จะนำธุรกรรมใหม่ ๆ อย่าง บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แบบเงินสด กับ DW ที่บริษัทฯวางแผนจะออกและเสนอขายในปี 53 จำนวน 10 ตัว โดยจะเป็นการทยอยออกทีละตัว แต่ละตัวจะมีอายุมากขึ้น จากเดิมที่เคยออกไป 3 ตัว มีอายุแค่ 6 เดือนเท่านั้น

น.ส.นฤมล กล่าวต่อว่า บริษัทฯคาดว่ามูลค่าการยืมหุ้นในธุรกิจ SBL รายย่อย จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 52 ที่มีมูลค่าของลูกค้ารายย่อยยืมหุ้น จำนวน 1.5 พันล้านบาท และคาดว่าจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่ก็จะเพิ่มขึ้น โดยสิ้นปี 52 บริษัทฯมีบัญชีลูกค้ารายย่อยในธุรกิจ SBL รวม 398 บัญชี จากสิ้นปี 51 ที่มีอยุ่ 278 บัญชี ขณะที่ลูกค้าสถาบันที่ใช้บริการธุรกิจ SBL ในสิ้นปี 52 มี 60 บัญชี จากปี 51 มี 51 บัญชี

อย่างไรก็ตาม ธุรกรรม SBL ในปี 53 จะดีกว่าปี 52 เนื่องจากภาวะตลาดฯที่ผันผวน ทำให้นักลงทุนหันมาเล่น short หุ้นมากกว่า น่าจะทำให้ธุรกิจ SBL น่าจะมีการเติบโตดีในปีนี้

นอกจากนี้ KGI ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ SBL เพื่อบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แบบเงินสด จากปัจจุบันที่ใช้เครดิตบาลานซ์ ซึ่งคาดหวังว่าจะเห็นธุรกรรม SBL ในแบบบัญชีซื้อขายด้วยเงินสดในช่วงครึ่งหลังปี 53 หลังจากที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แล้ว

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ KGI กล่าวว่า บริษัทฯได้ออก DW ในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 3 ตัวมีมูลค่าทั้งสิ้น 150 ล้านบาท และตัวล่าสุด PTT13CB เสนอขายได้มูลค่าทั้งสิ้น 32 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาซื้อ DW ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่เล่นหุ้นแม่อยู่แล้ว แต่พอภาวะตลาดฯมีความผันผวน ทำให้นักลงทุนหันมาเล่น DW แทน

อีกทั้งยังจะผลักดัน DW ในแบบ direct listing ที่คาดว่าจะออกได้ในช่วงไตรมาส 1/53 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎเกณฑ์รายละเอียด ก็จะทำให้เพิ่มความคล่องตัว ในการออก DW ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำได้หลากหลายมากขึ้น อย่างเช่นจะทำได้ทั้งในรูปแบบ call, put และหุ้นรายตัว ขณะที่ DW เดิมจะทำ call ได้อย่างเดียว

น.ส.นฤมล กล่าวว่า บริษัทฯยังมีแผนจะออก Gold ETF ร่วมกับ บลจ.วรรณ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน และ Foreign ETF ซึ่งเป็น ETF ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ หรือดัชนีหลักทรัพย์ต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น ซึ่ง ETF ทั้งสองรูปแบบนี้ KGI จะต้องขออนุมัติจากแบงก์ชาติและก.ล.ต.เพื่อรองรับการเป็น PDMM และการไปลงทุนยังต่างประเทศจะต้องทำการขออนุมัติผู้ถือหุ้นของ KGI ด้วย ซึ่งจะมีเรื่องนี้เข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้มีแผนจะออกหุ้นกู้อนุพันธ์ จำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของก.ล.ต. โดยบริษัทฯจะทำการทยอยออก เนื่องจากบริษัทฯเห็นว่าสถานการณ์เหมาะสมที่จะออกหุ้นกู้อนุพันธ์ในปีนี้ เพราะทิศทางอัตราดอกเบี้ยกำลังจะเป็นขาขึ้น และจะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือในอัตราที่สูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ