นายประภาส ตันพิบูลศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา(AYS)เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปี 53 คาดว่าดัชนีจะแกว่งที่ระดับ 600-800 กว่าจุด
ส่วนการที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อสร้างแรงกดดันรัฐบาลนั้น ช่วงนี้ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่การตัดสินของศาลคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.พ.53 ต้องรอว่าสุดท้ายแล้วคำตัดสินของศาลจะเป็นอย่างไร และถ้าตัดสินมีผลตัดสินแล้วถือว่ายุติไปได้เรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการเมืองที่ขับเคลื่อนอยู่ขณะนี้ ยังมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน
ปัจจัยเสี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้ คือ ปัจจัยการเมือง การจัดการมาบตาพุดต้องให้ยุติโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้เริ่มมีความคาดหวังแล้ว หากแก้ไขได้เร็วจะเป็นผลดี ขณะที่การเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี ที่รอมา 3 ปีแล้ว ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสรุปได้เมื่อไร
ส่วนการที่สมาคม บลจ.ยกเลิกข้อตกลงอัตราค่าคอมมิชชั่นกับ บล.หลังจาก บล.คิดค่าคอมฯ ไม่เท่ากันนั้น จากนี้ไปจะเป็นการเจรจากันเพื่อให้โบรกเกอร์แต่ละแห่งเริ่มพิจารณาเปิดเสรีเจรจากันเอง ซึ่งผู้จัดการกองทุนของ AYF มีการเสนอแนวทางเข้ามาแล้ว ต่อไปนอกจากพิจารณาในเรื่องเดิมๆ คือบทวิเคราะห์ การบริการ รวมทั้ง อัตราค่าคอมมิชชั่นที่เสนอมาด้วย หากมีการเสนอค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำกว่า แต่มีบทวิเคราะห์ไม่ดีก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง
นายประภาส กล่าวว่า AYF ให้ความสำคัญเรื่องค่าคอมมิชชั่นน้อยมาก แต่จะมองที่การเลือกหุ้น คุณค่าของโบรกเกอร์ สิ่งที่ได้รับการบริการจากโบรกฯมากกว่า เพราะค่าคอมฯที่ลดลงมีผลเล็กน้อยในในกองทุน AYF
อย่างไรก็ตาม การเปิดเสรีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน หกใช้การเจรจาค่าคอมฯราคาก็จะแตกต่างกัน แต่ระบบการจัดการจะยากขึ้น ดังนั้นโอเปอเรเตอร์ต้องเยี่ยมมาก ซึ่งบลจ.ขนาดใหญ่จะได้เปรียบกว่า บลจ.ขนาดเล็ก