ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงถ้วนหน้าเช้านี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ เสนอให้ใช้นโยบายจำกัดขนาดและการลงทุนของสถาบันการเงินเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ โดยหุ้นกลุ่มเหมืองของออสเตรเลียร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงการจัดเก็บภาษี และเงินเยนที่แข็งค่าส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทผู้ส่งออกของญี่ปุ่น
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,740.21 จุด ลดลง 128.20 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,527.20 จุด ลบ 335.47 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนร่วง 40.14 จุด หรือ 1.27% แตะ 3,118.72 จุด ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,696.21 จุด ลดลง 25.80 จุด ส่วนดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,986.43 ลบ 144.44 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,793.90 จุด ลดลง 33.30 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,806.82 ลบ 44.16 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วง 0.8% แตะ 122.83 จุด เมื่อเวลา 9.43 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 2.7% หลังจากที่นสพ.รายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียทบทวนเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมกับโครงการเหมืองตามอัตราทรัพยากรแห่งชาติ หุ้นริโอ ทินโต ดิ่ง 3.2% ส่วนหุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ร่วง 2.5% หลังจากที่บริษัทเปิดเผยว่า จะเรียกคืนรถในสหรัฐ ประกอบเงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงของการปรับฐาน ปัจจัยหลักที่จะหนุนหุ้นในปีนี้คือเรื่องตัวเลขกำไรของบริษัทเอกชน