นางวราภรณ์ วัชรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการลงทุน บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน(AMATA)คาดว่า ในปี 53 บริษัทจะสามารถทำยอดขายที่ดินได้สูงกว่าปี 52 ที่ขายได้ 250 ไร่ เป็นไปตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/52 ที่เพียงไตรมาสเดียวขายที่ดินได้ถึง 170 ไร่ และเชื่อว่ายังจะดีต่อเนื่องมาถึงปีนี้
"คาดว่ายอดขายในปี 53 จะดีกว่าปี 52 ที่ขายได้น้อยมากเพียง 1 ใน 3 ของยอดขายปี 51 ที่มีจำนวน 900 ไร่ แต่ยอดขายปีนี้จะกลับมาดีเท่าปี 51 หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของประเทศ เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวปัจจัยการเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมไปถึงกรณีมาบตามพุด ที่ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของรัฐบาล"นางวราภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทกำลังเจรจาขายที่ดินให้กับลูกค้าอีกหลายราย หลังจากที่ได้มีการเซ็นสัญญาขายที่ดิน 30 ไร่ตั้งแต่ปลายปีก่อน และจะบันทึกรายได้ในปีนี้ ขณะที่ลูกค้าหลักยังเป็นญี่ปุ่น จีน สหรัฐ และเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เคมีคอล โลจิสติกส์ และ พลังงาน
สำหรับปัญหาเรื่องมาบตาพุดมีกระทบกับบริษัทในแง่ของความรู้สึกและความมั่นใจของนักลงทุน แต่สำหรับผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทมีไม่มากนัก
นางวราภรณ์ ยังกล่าวต่อว่า บริษัท อมตะเวียดนาม อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2-3 เดือนจากนี้ น่าจะกระจายหุ้นและเข้าตลาดหุ้นได้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม แผนการนำบริษัท อมตะเวียดนามเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามขึ้นอยู่กับภาวะตลาด แต่มองตลาดโดยรวมขณะนี้ดีขึ้นตั้งแต่ปลายปี 52 ดังนั้นในปี 53 สถานการณ์น่าจะเอื้ออำนวย แต่ทั้งนี้แผนดังกล่าวต้องนำเสนอคณะกรรมการ AMATA อนุมัติก่อน โดยต้องมีข้อสรุปภายในกลางปีนี้ เพื่อเข้าจดทะเบียนได้ตามแผน ส่วนแผนจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยยังอยู่ระหว่างการศึกษา
สำหรับ บริษัทอมตะเวียดนาม ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งที่ผ่านมามีผลดำเนินงานที่ดี สร้างผลตอบแทนได้ดี จ่ายเงินปันผลน่าพอใจ