ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) โดยมีหุ้นกลุ่มแบงค์ร่วงหนักหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ เสนอให้ใช้นโยบายจำกัดขนาดและการลงทุนของสถาบันการเงินเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายของโอบามา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลง 216.90 จุด หรือ 2.09% ปิดที่ 10,172.98 จุด ดัชนี S&P 500 รูดลง 24.72 จุด หรือ 2.21% ปิดที่ 1,091.76 จุด และดัชนี Nasdaq ดิ่ง 60.41 จุด หรือ 2.67% ปิดที่ 2,205.69 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเกรงว่า ข้อเสนอของโอบามาจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของภาคการธนาคาร นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องการคุมเข้มด้านนโยบายการเงินของจีน ส่วนปัจจัยจากการเปิดเผยตัวเลขรายได้ของบริษัทในสหรัฐส่วนใหญ่จะออกมาสูงกว่าคาดการณ์นั้น แต่ตัวเลขเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถยกระดับความเชื่อมั่นในตลาดขึ้นมาได้
ทั้งนี้ ปัจจัยจากเรื่องที่ยังไม่มีการรับรองจากทางวุฒิสภาสหรัฐเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งนายเบน เบอร์นานเก้ ขึ้นทำหน้าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อสมัยที่ 2 ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินเช่นกัน
หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริการ่วง 3.3% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ร่วง 8.5% ส่วนหุ้นแคปิตอล วัน ไฟแนนเชียล ดิ่ง 12% ขณะที่หุ้นกูเกิล ดิ่ง 5.7% หลังจากที่การเติบโตของยอดขายในไตรมาส 4 นั้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์