นายบุญเลิศ ปลื้มสืบกุล ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE)เปิดเผยว่า หากราคาถ่านหินยังเป็นไปตามคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปลายปีก่อน ก็จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯใน ปี 53 เพิ่มขึ้น 20% จากปี 52 ที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2,100 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาถ่านหินยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1/ 53 หลังจากราคาถ่านหินได้มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 65-75 ดอลลาร์/ตันในไตรมาส 3 /52 และสูงขึ้นต่อเนื่องแตะระดับ 75-85 ดอลลาร์/ตันในไตรมาส 4/ 52 โดยความต้องการถ่านหินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลดีต่อการซื้อขายของผู้ประกอบการในธุรกิจถ่านหิน ซึ่งหากราคาถ่านหินยังเป็นไปตามคาดการณ์จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 53 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20% จากปี 52 ที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2,100 ล้านบาท
นายบุญเลิศ กล่าวว่า จากปัจจุบันสภาพอากาศของประเทศในเขตหนาวมากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ส่งผลให้มีการใช้พลังงานความร้อนมากกว่าในอดีต ประกอบกับ การผลิตถ่านหินในประเทศจีนที่ไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจมีการเติบโตในอัตราเกิน 10% ทำให้การนำเข้าถ่านหินของจีน รวมถึงอินเดีย ในช่วงเดือน ธ.ค.52 และ ม.ค.53 ปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์
เบื้องต้นมีการประเมินว่า การนำเข้าของจีนจะยังคงสูงต่อเนื่องในไตรมาส 1/53 เพื่อนำถ่านหินไปใช้ในการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มสูงมากในช่วงฤดูหนาว และในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เริ่มมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวจะเป็นตัวผลักดันให้ความต้องการนำเข้าของของจีน และหลายประเทศยังคงสูงอยู่
"นอกจากราคาในตัวถ่านหินเองที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ความต้องการการใช้เรือ Vessel ขนถ่ายถ่านหิน และการติดขัดในท่าเรือของหลายประเทศ เนื่องจากสภาพอากาศที่ส่งผลให้การขนถ่ายสินค้าล่าช้า การทำ transhipment ติดขัด ล่าช้า ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้เรือขาดตลาด มีผลโดยตรงต่อค่าระวางเรือ(freight charge)โดยสูงขึ้นกว่า 20% -30% เมื่อเทียบกับช่วงต้นไตรมาสที่แล้ว ดังนั้น จึงส่งผลโดยตรงต่อราคาถ่านหินอย่างเห็นได้ชัด"นายบุญเลิศ กล่าว