นายสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ รองประธานกรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น(TTCL) เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็นโอกาสจากโครงการในมาบตาพุดถูกระงับโครงการ จึงได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มมิตซูบิชิ เพื่อดำเนินโครงการกลไกพัฒนาสะอาด (CDM) โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ โรงกลั่น นอกจากนี้ก็ยังมี กลุ่มปิโตรเคมี โรงปูน โรงผลิตกระดาษ โดยคาดว่าจะเริ่มมีรายได้กำไรในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
โดยบริษัทจะพัฒนา waste heat ซึ่งจะทำลายชั้นบรรยากาศ เปลี่ยนไปเป็นพลังงาน ซึ่งเขามองว่า ตลาดนี้อนาคตจะขยายตัว
"เราเห็นเรื่องมาบตาพุดเป็น hot issue คิดว่าโครงการของเราจะตอบโจทย์รัฐบาล ....โตโย-ไทยฯก็จะเป็นผู้รับเหมาครบวงจร เพราะมองว่าตลาดกว้างมาก ไม่เฉพาะแต่โรงกลั่น" นายสุวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ 65 โครงการในพื้นที่มาบตาพุดยังถูกระงับโครงการอยู่ โดยบริษัทได้รับงานของกลุ่มปตท. (PTT) และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ซึ่งทั้งสองงานบริษัทได้ก่อสร้างไปแล้ว 99.8% และได้รับงานตามสัดส่วนงานที่เสร็จ ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
"โชคดีของ โตโย-ไทยฯ ที่โครงการที่ติดอยู่ ที่โตโย-ไทยก็อยู่ในนั้น แต่ปรากฎว่า 2 โครงการ งานก้าวหน้าไป 99.8% แล้ว ก็เลยไม่ได้กระทบอะไรกับโตโย-ไทยฯ" นายสุวิทย์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
แม้ว่าบริษัทจะไม่มีงานใดค้างอยู่ในโครงการที่มาบตาพุดก็ตาม แต่บริษัทจะทบทวนแผนงานธุรกิจในปี 53 ใหม่ ซึ่งจะรอความชัดเจนสถานการณ์ในโครงการมาบตาพุดก่อนกำหนดทิศทางธุรกิจต่อไป
"เรายังไม่ review (แผนงาน)เราคงต้องเปลี่ยนแผน ขอให้เรื่องมาบตาพุดสะเด็ดน้ำก่อน ตัวเลขจะมีการทบทวนคาดว่า ปลายกุมภาพันธ์น่าจะเสร็จ" นายสุวิทย์ กล่าว