โบรกฯ แนะ"ซื้อ"หุ้น ADVANC ยังมีอัพไซด์-บริการ data หนุนปี 53 เติบโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 25, 2010 17:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ประสานเสียงแนะ“ซื้อ"หุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)มองยังมีอัพไซด์จากราคาปัจจุบัน แม้การประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่น 2.1GHz ยังไม่คืบหน้า แต่ก็ทำให้ฐานะการเงินในปีนี้มีความแข็งแกร่ง ขณะที่โอกาสการแข่งขันในตลาดอยู่เหนือกว่าคู่แข่ง และปันผลสูงต่อเนื่องคาดครึ่งหลังปี 52 จ่ายอีก 3.30 บาทต่อหุ้น

แนวโน้มผลประกอบการเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/52 โดยจะเห็นเป็นบวกครั้งแรกในปี 52 และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 53 โดยเฉพาะจากบริการข้อมูลที่กำลังมีการใช้งาน mobile internet เพิ่มขึ้น และการร่วมมือกับบมจ.ทีโอทีในการเปิดให้บริการ 3G น่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตในปีนี้

ราคาหุ้น ADVANC ปิดตลาดวันนี้ที่ 84.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน

          โบรกเกอร์               คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.เกียรตินาคิน             ซื้อ           95.00 (ยังไม่รวม 3G)
          บล.โกลเบล็ก               ซื้อ           97.00 (ยังไม่รวม 3G)
          บล.เคจีไอ                 ซื้อ           99.00 (ยังไม่รวม 3G)
          บล.กรุงศรีอยุธยา            ซื้อ           96.00 (ยังไม่รวม 3G)
          บล.ยูไนเต็ด                ซื้อ          104.30 (ยังไม่รวม 3G)

นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน แนะ"ซื้อ"โดยมองว่าราคายังมีอัพไซต์อีก 27% จากเป้าหมาย และให้ราคาเป้าหมายที่ 95 บาท บนพื้นฐานที่ปี 53 ยังไม่มีการประมูล 3G—2.1 GHz เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่อง 3G หลังรายชื่อว่าที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ใหม่ 4 คนถูกตีกลับ คงต้องใช้เวลากว่าจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติครบถ้วน ขั้นตอนการประมูล 3G จึงล่าช้าออกไปไม่มีกำหนด

“ตอนนี้หลังยังไม่เห็นความชัดเจนเรื่อง 3G เพราะรายชื่อ กทช.ถูกตีกลับ เดิมคาดว่าจะเห็นความชัดเจน Q1/53 ก็ไม่เห็น ครึ่งปีแรกก็คงไม่เห็น ไม่รู้ว่าจะเกิดเมือไหร่ ปีนี้หรือไม่เลยให้ราคาเป้าหมายที่ยังไม่รวมการเปิด 3G บนคลื่นความถี่ใหม่ที่ 95 บาท จากเดิมที่ให้ 108 บาท หากเกิด 3G"นักวิเคราะห์ กล่าว

ทั้งนี้ ภาพรวมผลประกอบการปี 52 ถือว่าดีกว่าประมาณการเล็กน้อย เนื่องจากครึ่งปีหลังดีกว่ามุมมองก่อนหน้า และคาดจะสามารถจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง 52 อัตราหุ้นละ 3.30 บาท(yield 4%) จากประมาณการเงินปันผลปี 52 หุ้นละ 6.30 บาท (yield 7%)

ส่วนทิศทางปี 53 ผู้บริหาร ADVANC มองว่าตลาดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายใหม่เติบโต 3-5% จากปี 52 และตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตในอัตราเดียวกับอุตสาหกรรม โดยเน้นการเติบโตจากรายได้บริการ Data ตามความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตไร้สายทั้งประเภท Data card และ Mobile Internet เราเห็นว่าการรุกตลาด Data ก่อนคู่แข่ง ประกอบกับ ความพร้อมด้านโครงข่าย และฐานลูกค้ามีคุณภาพ ทำให้ ADVANC ยังมีความได้เปรียบคู่แข่งแม้ไม่เกิด 3G

ขณะเดียวกันการลงทุนตามปกติ (กรณีไม่รวม 3G) จะเพิ่มความคล่องตัวของกระแสเงินสดให้กับ ADVANC โดยคาดผลประกอบการปี 53 จะมีกำไรปกติ 17,534 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปี 52 และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอหุ้นละ 6.30 บาท (yield 7-8%) ประเมินมูลค่าเหมาะสมไม่รวม 3G เท่ากับ 95 บาท และรวม 3G เท่ากับ 108 บาท

นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรีอยุธยา ปรับประมาณการกำไร ADVANC ในปี 52—53 เพิ่มขึ้น 5% ด้วยผลประกอบการที่มีโอกาสฟื้นตัวสูงขึ้น โดยคาดว่า 4Q52 จะกลับมาเติบโตได้เป็นไตรมาสแรกของปีจากธุรกิจ Non-Voice ที่โตต่อเนื่อง รวมทั้ง International Roaming มีสัญญานฟื้นตัว และผลบวกจากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง

เราประมาณการ ADVANC จะสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการของปี 52 ได้จำนวน 6.30 บาทต่อหุ้น(คาดว่า 2H09 บริษัทจะจ่ายเงินปันผล อีก 3.30 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 4%) คาดกำไร 4Q52 ที่ 4,258 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%YoY และ 2%QoQ

ผลประกอบการของ ADVANC ปรับตัวดีขึ้นใน 4Q52 ตามฤดูกาลและจะสามารถแสดงการเติบโต ได้เป็นไตรมาสแรกของปี 52 โดยในส่วนของรายได้จะเติบโตจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 4.8%YoY เป็น 28.6 ล้านราย, กระแสความนิยมของตลาด Smart Phone หนุนให้รายได้จากการให้บริการด้านข้อมูลเติบโต 20%YoY รวมถึง รายได้จาก International Roaming และการโทรทางไกลระหว่างประเทศที่ฟื้นตัวเทียบกับปีก่อนที่มีปัญหาการปิดสนามบินฯ

ด้านประสิทธิภาพการทำกำไรแม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 1%YoY เนื่องจาก Net IC ปรับลดลงซึ่งเป็นผลจากการออกโปรโมชั่นใหม่ซึ่งมีการลดค่าโทรนอกเครือข่ายลงแต่สามารถชดเชยได้จากการลดค่าใช้ จ่ายในการขาย ลดลง 3.6% YoYตามนโยบายในการควบคมค่าใช้จ่ายด้านการ ตลาด พนักงาน ส่วนการคืนหนี้เงินกู้ 3 พันล้านบาทในเดือน ก.ย. 52 ส่งผลให้บริษัทมีภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง 2%YoY

ส่วนปี 53 เราคาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวตามอุปสงค์การบริโภคในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว โดยเราสมมติฐานว่าลูกค้าใหม่จะเติบโต 5% จากปี 52 หรือประมาณ 1.5 ล้านเลขหมาย ใกล้เคียงการเติบโตของอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 4 ล้านเลขหมายเป็น 69 ล้านเลขหมาย

สำหรับกรณีที่ ADVANC ตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับคู่สัมปทานคือ บมจ.ทีโอที(TOT)ในการให้บริการ 3G โดยบริษัทเชื่อมต่อเครือข่าย 3G ของ TOT ในเขต กทม และปริมณทล จะเป็นประโยชน์ต่อ ADVANC จากการให้บริการ 3G ได้ก่อนคู่แข่งขันและเป็นการสร้างฐานลูกค้าในช่วงที่รอการประมูลใบอนุญาตใหม่

ขณะที่บทวิเคราะห์จากบล.โกลเบล็ก ระบุว่า ADVANC มีความโดดเด่นด้านฐานะการเงิน, กระแสเงินสด รวมถึงการจ่ายเงินปันผลที่สูงต่อเนื่อง ขณะที่จากการเลื่อนประมูล 3G ออกไป คาดว่าจะทำให้ ADVANC มีกระแสเงินสดเหลืออยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งคาดว่าในปี 53 ADVANC อาจมีการพิจารณาเพิ่มการจ่ายเงินปันผล จึงแนะนำ"ซื้อ"เพื่อรอรับเงินปันผล

สำหรับการประมูล 3G—2.1 GHz ยังคงไม่มีความชัดเจนจากที่เคยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลใน 3Q53 กลับมาไม่มีความชัดเจนอีกครั้ง โดยล่าสุดรายชื่อ 4 กทช.ใหม่ถูกตีกลับเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมอีกครั้ง ขณะที่อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการกฤษฎีการตีความอำนาจ กทช.ในการเปิดประมูล 3G, ภาครัฐต้องการให้การแปรสัญญาสัมปทานให้เสร็จก่อน โดยกระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะจ้างที่ปรึกษาแนวทางดังกล่าว รวมทั้งหากล่าช้าไปจนเดือน ก.ย.53 กทช.เก่าทั้ง 3 ท่านจะหมดวาระ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่าการเปิดประมูล 3G จะเกิดขึ้นเมื่อไร

ด้านนักวิเคราะห์บล.ยูไนเต็ด คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการ ADVANC ใน 4Q52 รายได้จากการให้บริการไม่รวม IC พลิกโตครั้งแรกในรอบปี ด้วยผลสำเร็จการทำโปรโมชั่น เช่น โปร “บู๊ลิ้ม" กอปรกับจุดแข็งในการเป็นผู้นำโครงข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากสุด ทำให้เราคาดจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ(Net additions)ใน 4Q52 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกจาก 3Q52 ที่ 0.38 ล้านราย เป็น 0.43 ล้านราย หรือส่งผล ณ สิ้นปี 52 จะมีฐานผู้ใช้บริการรวมกว่า 28.7 ล้านเลขหมาย (+5%YoY)

นอกจากนี้ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจขายมือถือที่ดีขึ้น หลังประสบความสำเร็จในการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์ BlackBerry ก็ทำให้เราคาดอัตรากำไรจากการดำเนินงานโดยรวม (EBITDA Margin) จะยังทรงตัวสูงที่ระดับ 46.2% อีกทั้ง จากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงต่อจาก 3Q52 ดังนั้น เราจึงประมาณการกำไรปกติ 4Q52 เริ่มฟื้นตัว 9%YoY ที่ 4,311 ล้านบาท

นอกจากนั้น ผลจากการที่บริษัทมีการใช้โครงข่ายของบ.ลูก (DPC) ที่เพิ่มขึ้น โดยนำลูกค้าระบบ Prepaid มาเชื่อมโยงโครงข่ายของ DPC เพิ่ม ก็ทำให้มีแนวโน้มสูงที่ใน 4Q52 บริษัทอาจไม่ตั้งสำรองค่าตัดจำหน่ายบ.ลูกที่สูงดังเช่น 4Q51 แล้ว จึงทำให้เราได้ภาพรวมกำไรสุทธิทั้งปี 52 ที่ 17,260 ล้านบาทหรือดีกว่าคาดการณ์ในปัจจุบันของเราราว 3%

ประกอบกับปี 53 ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่จะกลับมาขยายตัวอีกครั้งและพฤติกรรมผู้ใช้บริการมือถือที่เริ่มเปลี่ยนแปลงมาใช้การบริการด้านข้อมูลมากขึ้น ดังนั้น ผู้บริหารจึงตั้งเป้ายอดผู้ใช้บริการและรายได้จากการบริการด้านข้อมูลและบริการเสริมปี 53 จะเพิ่มขึ้นอีก 1.5 ล้านรายและ 20%YoY ตามลำดับ และประเมินผลักดันรายได้จากการให้บริการปี 53 ขยายตัวได้ราว 3%YoY ในขณะที่เบื้องต้น เรายังคงประมาณการรายได้บริการและกำไรสุทธิปี 53 ฟื้นตัวราว 0.4%YoY และ 2%YoY ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ