ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 3.71จุดแรงซื้อกลับดันดัชนีรีบาวน์บ้างหลังเช้าร่วงแรง พรุ่งผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 25, 2010 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดช่วงบ่ายลดลง 3.71 จุด มาที่ระดับ 710.39 จุด(-0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 18,240.38 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้กลับมารีบาวน์ในช่วงบ่ายหลังระหว่างเทรดช่วงเช้าทรุดตัวลงไปลึกกว่า 10 จุดจากแรงขายจากหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานจากความวิตกปัจจัยลบ 30 โครงการมาบตาพุดยังไม่ได้รับการอนุญาตให้เดินหน้าต่อ แต่ในช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้โดยตรง พรุ่งนี้คาดตลาดฯ ยังคงผันผวนอยู่ พร้อมให้แนวรับ 705 แนวต้าน 720 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 710.39 จุด ลดลง 3.71 จุด(-0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 18,240.38 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในแดนลบตั้งแต่เปิดตลาดแต่ปิดลบเพียง 3.71 จุด จากช่วงเช้าปิดลบกว่า 9 จุด หลังมีแรงซื้อกลุ่มแบงก์เข้ามา โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 713.89 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 702.87 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 93 หลักทรัพย์ ลดลง 220 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 130 หลักทรัพย์

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากตลาดหุ้นได้รับผลกระทบด้านจิตวิทยาจากกรณีมาบตาพุดเป็นหลัก แต่มองว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความล่าช้าของโครงการในมุมมองที่สมมุติฐานว่าโครงการล่าช้าออกไป 12 เดือน คาดว่าจะส่งผลเสียหายที่ 7.2 พันล้านบาท แต่ดัชนีตลาดหุ้นในช่วงเช้าถือว่าปรับลดลงเกินกว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่าย โดยเฉพาะในหุ้นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง

แนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ (26 ม.ค.53) คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนต่อเนื่องโดยให้กรอบการลงทุนที่ แนวรับ 705 จุด แนวต้านที่ 720 จุด ซึ่งหุ้นกลุ่มที่แนะนำลงทุนเป็นหุ้นกลุ่มแบงก์และหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดี

"ตลาดหุ้นกลับมารีบาวน์เพราะนักลงทุนตื่นตระหนกจากปัจจัยมาบตาพุดในช่วงเช้า ความเสียหายที่ประเมินหากล่าช้า 12 เดือน ที่ 7.2 พันล้าน แต่ตลาดตกลงไปเกินจริง ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับมาบตาพุด อย่างกลุ่มแบงก์ดึงให้ตลาดปิดลบน้อยลง แต่พรุ่งนี้มองว่าตลาดหุ้นยังคงผันผวนต่อ"นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,497.62 ล้านบาท ปิดที่ 548.00 บาท ลดลง 26.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,039.49 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,310.58 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 933.80 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

SCIB มูลค่าการซื้อขาย 757.32 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ