นายโสฬส ตั้งในธรรม กรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ทาพาโก้(TAPAC) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีการเจรจาเพื่อหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่ รวมถึงกรณีของบริษัท พานาโซนิค ตามที่มีกระแสข่าว แต่ยอมรับว่าพร้อมเปิดโอกาสการร่วมลงทุนหากมีนักลงทุนรายใดสนใจ และสามารถเกื้อหนุนธุรกิจกันได้
"ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุย ไม่ว่ากับรายใดๆ รวมถึงพานาโซนิคที่มีข่าว เพราะปกติหากมีการเจรจากันจริงก็ต้องมีการทำ due diligence แต่ตอนนี้ไม่มี แต่ถ้ามีเข้ามาก็สนใจหากธุรกิจเกื้อกัน มุมมองผมหากจะเข้ามองก็ต้องมีหลัก 2-3 ด้าน เช่นเรื่อง know how หรือด้านเทคโนโลยีที่คิดว่าแลกเปลี่ยนกันได้"นายโสฬส กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายโสฬส กล่าวถึงแผนดำเนินธุรกิจในปี 53 ว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายในปีนี้ 20% จากปีก่อน โดยในเดือน เม.ย.53 จะสามารถเปิดโรงงานใหม่ได้ การแต่ใช้กำลังการผลิตคงยังได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากต้องมีการทยอยนำเข้าเครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิต ขณะที่ปริมาณวัตถุดิบของบริษัทปกติจะอยู่ที่ 1,000 ตัน/ปี และได้ขอรับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ในการเพิ่มปริมาณวัตถุดิบอีก 1,100 ตัน/ปีที่จะทยอยใช้ และจะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น และคาดว่าการทำกำไรในปี 53 น่าจะเติบโตใกล้เคียงยอดขายที่ 20%
ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายสร้างรายได้จากธุรกิจในประเทศเป็นหลัก โดยจะเน้นการหาลูกค้ารายใหม่มากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีบริษัท Ricoh ดำเนินธุรกิจ Office Automation และอีกรายเป็นบริษัทดำเนินธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัทจะรุกตลาดใหม่มากขึ้นจากที่บริษัทมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว ส่วนตลาดต่างประเทศยังไม่เน้นการขยายตลาดส่งออกใหม่ แต่จะเป็นการรักษาฐานลูกค้ารายเดิมมากว่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดในเอเซีย
"ตอนนี้เรามีสัดส่วนส่งออก 40% และในประเทศ 60% คาดว่าจะรักษาสัดส่วนนี้ไว้ เน้นการสร้างรายได้จากในประเทศเป็นหลัก เพราะตลาดต่างประเทศนั้น ลูกค้าบางรายก็มีการย้ายฐานการผลิตมาในประเทศแล้ว ดังนั้น เราจึงเน้นรักษาลูกค้ารายเดิม ส่วนในประเทศก็หาลูกค้าใหม่เพิ่ม"นายโสฬส กล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 23 ม.ค.53 ที่ผ่านมา นายโสฬส กล่าวว่า เป็นการประชุมในวาระปกติ เกี่ยวกับผลการดำเนินงานและการจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้น โดยยืนยันว่าไม่มีวาระเรื่องการเพิ่มทุนแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ TAPAC รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่าบริษัทเพียงแค่อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ถึงรูปแบบที่อาจมีความเหมาะสมต่อโครงการและแผนการลงทุนในอนาคต ซึ่งยังไม่มีความไม่แน่นอนใด ๆ