ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดขยับลง 2.57 จุด ขณะนักลงทุนจับตาประชุม FED

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 27, 2010 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐเสนอให้มีการควบคุมขนาดและการลงทุนของธนาคารพาณิชย์ในประเทศ อาจส่งผลสกัดการขยายตัวในภาคธนาคาร นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธที่ 27 ม.ค. และก่อนที่โอบามาจะแถลงนโยบายประจำปี (state of the union) ในวันพุธเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 2.57 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 10,194.29 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.61 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 1,092.17 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 7.07 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,203.73 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.12 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.4 พันล้านหุ้น

หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวโอบามาเสนอให้มีการออกกฎที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อจำกัดขนาดและการลงทุนของสถาบันการเงิน รวมถึงการห้ามไม่ให้สถาบันการเงินเข้าไปลงทุนในเฮดจ์ฟันด์และกองทุนไพรเวทอิควิตี้ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์การเงินระลอกสอง

นักวิเคราะห์จากบริษัท Stutland Equities ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนและอ่อนแอนับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 ม.ค.ซึ่งเป็นวันที่โอบามาเสนอให้มีการใช้กฎดังกล่าวที่มีรายละเอียดคล้ายกับมาตรการควบคุมภาคธนาคารที่สหรัฐเคยนำมาใช้ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษ 1930

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวรัฐบาลจีนเตรียมใช้มาตรการควบคุมการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศ โดยเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนมีคำสั่งว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเพิ่มเพดานกันสำรองสำหรับการปล่อยสินเชื่อมากเกินไปนั้น จะต้องเพิ่มเพดานกันสำรองพิเศษ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นไป

นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในคืนวันพุธที่ 27 ม.ค. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมกับรอฟังแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดเพื่อดูว่าเฟดประเมินทิศทางเศรษฐกิจอย่างไรในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูการแถลงนโยบายประจำปีของโอบามาในวันพุธเช่นกัน

นอกเหนือจากการประชุมเฟดและการแถลงนโยบายประจำปีของโอบามาแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมวุฒิสภาสหรัฐที่เตรียมลงมติเพื่อยืนยันการแต่งตั้งเบน เบอร์นันเก้ เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 หลังจากเดวิด เอ็กเซลร็อด ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาวกล่าวว่า เบอร์นันเก้มีฐานเสียงมากพอที่จะรั้งตำแหน่งประธานเฟด

หุ้นแอปเปิล อิง ปิดบวก 1.5% หลังจากแอปเปิลเปิดเผยว่ากำไรไตรมาส 4 ปี 2552 พุ่งขึ้นแตะ 3.38 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.67 ดอลลาร์ต่อหุ้น และยอดขายทะยานขึ้น 35% แตะ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากยอดสั่งซื้อเครื่องแมคอินทอชและไอโฟนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและช่วงปลายปี

ทางการสหรัฐจะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.,ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2552 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีไตรมาส 4 ของสหรัฐ จะขยายตัว 4.6% ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 4 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ