ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกสหรัฐ,จีนชะลอมาตรการฟื้นฟู ฉุดฟุตซี่ปิดร่วง 59.38 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 28, 2010 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐ จีน และยุโรป อาจชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงอย่างหนักของสหรัฐ ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุด

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 59.38 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 5,217.47 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,192.58-5,276.85 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.ปี 2552 ร่วงลง 7.6% แตะที่ 342,000 ยูนิต จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 370,000 ยูนิต และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 370,000 ยูนิตในเดือนธ.ค.

นักวิเคราะห์จาก Killik & Co ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า นอกเหนือจากยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงอย่างหนักในสหรัฐแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังวิตกกังวลว่าสหรัฐ จีน และยุโรป อาจชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นไปอย่างล่าช้า

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่จีนใช้มาตรการควบคุมการขยายตัวของสินเชื่ออาจส่งผลให้ดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย โดยหุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดร่วง 1.3% หุ้นบีพี ปิดลบ 1.9% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดร่วง 2.4% ส่วนหุ้นทุลโลว์ ออยล์ร่วงลง 4.6% หลังจากบริษัทประกาศระดมทุนด้วยการขายหุ้นมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจาก BBVA ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับสองของสเปนรายงานตัวเลขหนี้เสียเพิ่มขึ้น โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดลบ 0.8% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดร่วง 3.5% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดลบ 4.1% หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดร่วง 4.8% และหุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ดิ่งลง 5.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ