ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกผลประกอบการเอกชน ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 115.70 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 29, 2010 06:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากบริษัทเทคโนโลยี รวมถึงบริษัท ควอลคอม และโมโตโรลา อิงค์ ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตือนว่าระบบการธนาคารที่อ่อนแอของอังกฤษอาจทำให้อันดับเครดิตของอังกฤษตกอยู่ในความเสี่ยง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 115.70 จุด หรือ 1.13% แตะที่ 10,120.46 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 12.97 จุด หรือ 1.18% แตะที่ 1,084.53 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 42.41 จุด หรือ 1.91% ปิดที่ 2,179.00 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.12 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกราว 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.83 พันล้านหุ้น

นักวิเคราะห์จากบริษัท Federated Clover Investment Advisors กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากบริษัท ควอลคอม และโมโตโรลา เปิดเผยผลประกอบการและการคาดการณ์ที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับหนี้สินสาธารณะของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ โดยรัฐบาลกรีซเร่งระดมทุนอย่างหนักเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่มีอยู่เกือบ 13% ของตัวเลขจีดีพี

ตลาดได้รับแรงกดดันจากข่าว S&P ขู่ลดอันดับเครดิตอังกฤษเนื่องจากระบบการเงินที่อ่อนแอ ความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงและฉุดหุ้นกลุ่มวัตถุดิบร่วงลงด้วย

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มภาคการธนาคารของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในระหว่างแถลงนโยบายประจำปีเมื่อวานนี้ โดยโอบามากล่าวเพียงว่า เขาไม่มีความตั้งใจที่จะกดดันภาคธนาคารของสหรัฐ แต่เขายืนยันจะคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปทางการเงินที่อ่อนแอเกินไป

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย แตะที่ 470,000 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 ม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะอยู่ที่ 450,000 ราย ลดลงจาก 482,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนธ.ค.

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นควอลคอมปิดร่วง 14.2% หุ้นโมโตโรลาปิดลบ 12.4% หุ้นแอปเปิลปิดลบ 4.1%

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2552 ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีไตรมาส 4 ของสหรัฐ จะขยายตัว 4.6% ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 4 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ