FSS พร้อมรับนโยบายใหม่หาก ICBC หุ้นใหญ่ ACL,เป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้ 6%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 29, 2010 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯกำลังรอดูการเปลี่ยนแปลงและแผนการดำเนินธุรกิจ ภายหลังจากที่ ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า(ICBC)ได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในธนาคารสินเอเซีย(ACL)

ปัจจุบัน ACL ถือหุ้น FSS ประมาณ 24%

"หาก ICBC เข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน ACL แล้ว เชื่อว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ชื่อธนาคารก็จะต้องเปลี่ยนแปลง ชื่อในการถือหุ้น FSS ด้วย และเมื่อถึงเวลานั้นก็อาจจะมีนโยบายของ ICBC อะไรออกมาอีก"นายกัณฑรา กล่าว

นายกัณฑรา กล่าวต่อว่า สำหรับปี 53 บริษัทฯ ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)ไว้ที่ 6% จากปัจจุบันนับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมจนถึง 28 ม.ค.53 บริษัทฯมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ 4.81%

สิ่งที่บริษัทฯจะทำในปีนี้คือ การลดสัดส่วนรายได้ที่มาจากค่าคอมมิชชั่นลง แล้วหันไปเพิ่มรายได้จากส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะจะเน้นหารายได้จากตลาดอนุพันธ์(TFEX)เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯมีมาร์เก็ตแชร์ตลาด TFEX ประมาณ 3.98% ซึ่งจัดอยู่ในอันดับที่ 7 และจะมีการเพิ่มในส่วนของ Prop Trade

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนจะหารายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งก็คงจะมาจากการปล่อยมาร์จินให้กับลูกค้า ปัจจุบันปล่อยมาร์จินให้ลูกค้าประมาณ 400 ล้านบาท ในปีนี้ก็อาจจะต้องเพิ่มวงเงินการปล่อยมาร์จิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะปล่อยมากหรือน้อยแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพตลาดโดยรวมเป็นหลักด้วย

กรรมการผู้จัดการ FSS กล่าวว่า ในปีที่แล้ว(52) รายได้ของโบรกเกอร์ทั้งระบบ ส่วนใหญ่จะมาจากค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยถึง 74% และเป็นรายได้ที่มาจากดอกเบี้ยแค่ 5%, รายได้จากธุรกิจอนุพันธ์ 5%, รายได้จากค่าธรรมเนียม 5%, รายได้จาก Prop Trade มี 9% และ รายได้ที่มาจากดอกเบี้ยมาร์จิน 5%

ส่วนปีนี้เชื่อว่าทุกโบรกเกอร์ต่างก็พยายามที่จะลดรายได้ที่มาจากค่าคอมมิชชั่นให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อมีการนำระบบการคิดค่าคอมมิชชั่นแบบขั้นบันไดมาใช้ในปีนี้เป็นปีแรกด้วย ซึ่งหลายโบรกฯคงจะหารายได้จากทางอื่นเข้ามาทดแทน

"บริษัทฯมีลูกค้าที่เป็นรายใหญ่ ๆ ประมาณ 10 กว่าราย ตอนนี้ก็ไม่เห็นมีใครขอต่อรองอะไร ถึงขอก็ไม่ให้ ส่วนใหญ่ลูกค้าของบริษัทฯยังเป็นลูกค้ารายย่อยถึง 90% ซึ่งหากเปิดเสรีฯแล้ว ลูกค้ารายย่อยก็จะกลายเป็นทอง ซึ่งเราก็เห็นคุณค่าของลูกค้ารายย่อยอยู่เสมอมาอยู่แล้ว"กรรมการผู้จัดการ FSS กล่าว

นายกัณฑรา กล่าวต่อว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในปี 52 คาดว่าจะออกมาดีกว่าปี 51 เป็นผลจากรับรายได้จากค่าคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้น และธุรกิจ TFEX มีการเติบโตดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการควบรวมกิจการด้วย อีกทั้งวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 52


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ