ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) คาดว่าปี 53 แม้แนวโน้มธุรกิจเดินเรือจะดีขึ้นจากความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่จำนวนกองเรือก็เพิ่มขึ้นมากกว่าความต้องการใช้เรือ จึงประเมินว่าค่าระวางเรือจะทรงตัวหรือใกล้เคียงปี 52 ที่มีระดับค่าระวางเรือเฉลี่ย 10,973 เหรียญ/ลำ/วัน
ส่วนธุรกิจนอกชายฝั่งอาจดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปี 52 เพราะบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ (MML) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีกำหนดรับมอบเรือใหม่จำนวน 3 ลำในปีนี้ หลังจากรับมอบไปแล้ว 1 ลำเมื่อ พ.ย. 52 จึงเชื่อว่ารายได้จากเมอร์เมดฯดีขึ้น แต่ก็คงดีไม่มากนัก เพราะงานสำรวจใต้น้ำ เช่นก๊าซ น้ำมัน ยังไม่เพิ่มขึ้นมาก แต่คาดว่าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าธุรกิจเหล่านี้ดีขึ้นเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี
ขณะที่ธุรกิจถ่านหินของบมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS)น่าจะดีขึ้นกว่าปี 52 โดยคาดว่าปริมาณการใช้ถ่านหินของไทยน่าจะเพิ่มขึ้น และแนวโน้มราคาถ่านหินสูงขึ้น น่าจะทำให้ผลประกอบการออกมาดีกว่าปี 52
"คาด UMS มีปริมาณนำเข้าและยอดขายในประเทศขยายตัวปีละ 7% ไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะเป็นบริษัทที่มี Asset ไม่เยอะ แต่สินทรัพย์ที่ลงทุนแล้วก็สามารถนำเข้าถ่านหินและขายให้ลูกค้าปีละ 3 ล้านตันโดยที่ไม่ต้องการสร้างโกดังใหม่ ถึงแม้ว่าราคาที่ซื้อหุ้น UMS มา ผู้ถือหุ้นอาจจะเห็นไม่เหมาะสม แต่เป็น ASSET ที่รับรู้รายได้ทันที และมองแล้วว่าธุรกิจถ่านหินจะขยายตัวมากขึ้น การที่เราเข้าซื้อจะทำให้ synergy กับบริษัทให้ครบวงงจร"กรรมการผู้จัดการ TTA กล่าวในการประชุมสามัญใหญ่ผู้ถือหุ้น
ขณะเดียวกัน นายปิยะ ตันธนพิพัฒน์ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการลงทุน UMS กล่าวว่า ทาง TTA ไม่มีนโยบายที่จะเพิกถอนหุ้น UMS ออกจากตลาด เอ็ม เอ ไอ
ม.ร.ว.จันทรจุฑา กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจของ Merton Group (Cyprus) Limited บริษัทย่อยของ TTA ซึ่งทำธุรกิจเหมืองถ่านหินในประเทศฟิลิปปินส์นั้น คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน พ.ค.53 พร้อมเชื่อว่าปีนี้เป็นปีทองของธุรกิจพลังงาน
อนึ่ง ในวันนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น TTA อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 883 ล้านบาท เป็น 933 ล้านบาท โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้นให้กับบุคคลในวงจำกัด(PP)ตามที่คณะกรรมการบริษัทเสนอ