PERM เล็งขยายการลงทุนใน H2/53 หลังออเดอร์ไหลเข้า,Q1/53 มาร์จิ้นดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 1, 2010 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เพิ่มสินสตีลเวิร์ค(PERM)มองตลาดปีนี้สดใส ออเดอร์เข้าถึงไตรมาส 2 แล้วตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์และก่อสร้าง ส่งผลให้การใช้กำลังการผลิตเช้าสู่ภาวะปกติ โดยปัจจุบันอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 70-80% จากปีก่อนที่ใช้อยู่ 60% อย่างไรก็ตาม หากปีนี้ใช้กำลังการผลิตเต็มที่แล้วยังไม่เพียงพอก็อาจจะพิจารณากำหนดแผนขยายการผลิตอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังปี 53

"ปีนี้จะใช้กำลังการผลิตให้เต็มที่ก่อนตัดสินใจขยายการลงทุนต่อไป อาจจะไตรมาส 3 หรือ 4/53" นายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ทั้งนี้ บริษัทได้ออเดอร์ของกลุ่มยานยนต์แล้ว 60 วัน หรือถึงต้นไตรมาส 2/53

นายชูเกียรติ กล่าวว่า ปี 53 มีแผนงานลงทุนต่อเนื่องจากเมื่อปีที่แล้วที่ได้ลงทุนในโรงงานใหม่พื้นที่ 5 พัน ตร.ม.และซื้อเครื่องตัดเหล็กนำเข้าจากญี่ปุ่น ใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 160 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต 30% จากเดิมที่มี 1.2 แสนตัน/ปี คาดว่าปลาย ก.พ.-ต้น มี.ค.53 จะแล้วเสร็จ เพื่อเข้ามารองรับกับความต้องการกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเครื่องจักรใหม่จะมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม

"การเมืองน่ากังวลมากๆ ตราบใดที่การเมืองไม่นิ่ง เพราะกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นของเราค่อนข้างเยอะ ซึ่งเขาค่อนข้าง sensitive เรื่องการเมือง มาบตาพุด ดูแล้วจะกระทบการลงทุนในอนาคต แต่ผลกระทบยังคงไม่ได้รับโดยตรง หรือรุนแรง แต่หากรัฐปล่อยปละละเลยนานไปกว่านี้ ผมก็เป็นห่วงเรื่องนี้มากๆ" นายชูเกียรติ กล่าว

*เชื่อ Q1/53 กำไรดีขึ้นมีสต็อกเก่าแม้ต้นทุนพุ่ง

นายชูเกียรติ กล่าวว่า แนวโน้มราคาเหล็กตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะมีการทยอยปรับขึ้นอีกราว 20-25% หลังจากที่ปรับขึ้นไปแล้ว 5% ในช่วงไตรมาส 4/52 เนื่องจากขณะนี้ราคาสินแร่ปรับตัวสูงขึ้นไปถึง 30-35% ซึ่งมากกว่าที่บริษัทคาด ขณะที่ราคาขายของบริษัทได้พยายามขยับตามต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ก็ปรับขึ้นเร็วไม่ได้ แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้ปรับราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีสต็อกเก่าที่ม่ต้นทุนเดิมเหลืออยู่ ทำให้กำไรในไตรมาส 1/53 จะออกมาดีกว่าในไตรมาส 4/52 โดยคาดว่าไตรมาส 1/53 จะมีอัตรากำไรสุทธิ(net margin)ประมาณ 5-6% สูงกว่าไตรมาส 4/52 ที่อยู่ในระดับ 2-3%

"สินแร่ต้นทุนสูงขึ้น แต่เรามีสต็อกเก่าในเดือนนี้ คาดว่าออเดอร์เดือน ก.พ.จะมีต้นทุนสูงขึ้นจากราคาสินแร่เหล็กเพิ่มขึ้น ประมาณ 10% แต่เนื่องจากยังมีสต็อกเก่าอยุ่ตรงนี้เราก็จะได้อานิสงส์ส่วนหนึ่ง" นายชูเกียรติ กล่าว

ส่วนไตรมาส 2/53 ยังคาดเดาราคาเหล็กลำบาก เพราะขณะนี้มีราคาล่วงหน้าถึงปลายไตรมาส 1/53 ขณะเดียวกัน บริษัทได้ออเดอร์ของกลุ่มยานยนต์แล้ว 60 วัน หรือถึงต้นไตรมาส 2/53

นายชูเกียรติ คาดว่า รายได้และกำไรสุทธิในปี 53 จะเติบโต 15% โดยเพิ่มสัดส่วนยอดขายเหล็กแผ่นรีดร้อนรองรับจากความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์และก่อสร้างที่ฟื้นตัวขึ้นหลังภาวะเศรษฐกิจเริ่มผงกหัว เชื่อกำไรไตรมาส 1/53 ออกมาสูงกว่าไตรมาส 4/52 แม้ราคาวัตถุดิบขยับขึ้นมาแล้ว แต่ยังมีสต็อกเก่า

"ผมคาดว่ารายได้จะเพิ่มจากปีที่แล้วประมาณ 15% ปีนี้เหล็กแผ่นรีดร้อนบริษัทจะเพิ่มยอดขาย 10-15% ของยอดขายปีที่แล้ว...ปีที่แล้วเราคาดว่ายอดขาย(รวม)อยู่ที่ 2,100 กว่าล้านบาท จะปรับเพิ่มมาเป็นประมาณ 2,400 ล้านบาทในปีนี้ เราดูแล้ว กำไรปีนี้เราก็น่าจะดีกว่าปีก่อน คงจะเพิ่มอัตราเดียวกับรายได้ที่โต 15%"นายชูเกียรติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

บริษัทมองว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะมีการขยายตัว และมีความต้องการเหล็กเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งซื้อเพิ่มเข้ามาแล้วในไตรมาส 1/53 ขณะเดียวกัน ธุรกิจผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เติบโตเช่นกัน

ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้บริษัทปี 53 จะเปลี่ยนแปลงโดยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเหล็กแผ่นรีดร้อนเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการในประเทศที่น่าจะสูงขึ้นตามแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้งานสูง ซึ่งมีการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม จากเดิมที่รายได้ส่วนใหญ่เมาจากเหล็กแผ่นรีดเย็นเกือบทั้งหมด

ปัจจุบัน บริษัทมีโครงสร้างรายได้หลักจากการขายเหล็กรีดเย็น 50% เหล็กรีดร้อน 40% และเหล็กเคลือบอีก 10%

นายชูเกียรติ กล่าวถึงรายได้ในปี 52 ที่ผ่านมาว่าทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.2 พันล้านบาท โดยไตรมาส 2-3/52 ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ยอดขายตกและมีผลขาดทุน แต่กลับมาพลิกฟื้นได้ในปลายไตรมาส 3-4/52 จนกระทั่งปัจจุบันภาวะตลาดปรับตัวดีขึ้นมามาก

อย่างไรก็ตาม ทั้งปี 52 รายได้ยังมีการเติบโตประมาณกว่า 10% ซึ่งบริษัทก็พอใจในส่วนของยอดขาย แต่กำไรยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ