ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) ขานรับรายงานภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของเกินคาดของสหรัฐและประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากบริษัท เอ็กซอนโมบิล คอร์ป รายงานผลประกอบการที่สดใส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 118.20 จุด หรือ 1.17% แตะที่ 10,185.53 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 15.32 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 1,089.19 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 23.85 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 2,171.20 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.04 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.22 พันล้านหุ้น
นักวิเคราะห์จาก Direct Access Partners LLC กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 58.4 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 54.9 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 จุด
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังขานรับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนม.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 55.8 จุด ในเดือนม.ค. ซึ่งแม้ว่าลดลงจากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 56.6 จุด แต่ดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว ขณะที่ญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.2% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล โดยก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงหนุนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐไตรมาส 4 ปี 2552 ขยายตัวในอัตรา 5.7% ต่อปี ซึ่งทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 4.6% สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนภาคเอกชน รวมทั้งการส่งออกและการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 13,000 คน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในปี 2553 แต่คาดว่าอัตราว่างงานจะยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 10% ในเดือนม.ค.
หุ้นเอ็กซอนโมบิลพุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น3% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองพุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ดีดขึ้น 5% หุ้นยู.เอส. สตีล คอร์ป ทะยานขึ้น 6.5%