บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) ตั้งเป้ารายได้ปี 53 เติบโต 3% ตามปริมาณการจราจรบนทางด่วนในปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 3% ซึ่งเติบโตต่อเนื่องจากปี 52 ขณะเดียวกันมีแผนเสนอขายหุ้นกู้ในช่วงครึ่งหลังปีนึ้ โดยจะนำไปใช้คืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนและใช้คืนเงินกู้บางส่วน
นางสุทธิดา สุขะนินทร์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ BECL คาดว่า ปริมาณจราจรที่ใช้ทางด่วนในปี 53 ขยายตัว 3% จากปี 52 ที่มีปริมาณจราจรเฉลี่ย 9.52 แสนคัน/วัน ซึ่งเติบโตในอัตราเดียวกันที่ 3% จากปี 51
การเติบโตดังกล่าวเป็นผลจากการเปิดใช้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะที่เปิดทำการเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาเต็มปี ขณะที่เส้นทางไปสุวรรณภูมิก็น่าจะมีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นจากกรณีที่การท่องเที่ยวฟื้นตัว แต่ก็ยังกังวลว่าหากมีการเปิดให้บริการแอร์พอร์ตลิงค์ก็อาจส่งผลกระทบบ้าง
"ปริมาณจรจรปีนี้คิดว่าโต 3% จากปีที่แล้วก็โต 3% เติบโตจากเส้นสุวรรณภูมิที่นักท่องเที่ยวกลับมา ส่วนเส้นแจ้งวัฒนะก็มีศูนย์ราชการฯและมีห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ"นางสุทธิดา กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงครึ่งหลังปี 53 โดยส่วนหนึ่งจะนำไปคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนส.ค.53 จำนวน 3.95 พันล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ออกหุ้นกู้ไปเมื่อปีที่แล้ววงเงิน 2 พันล้านบาท และคาดว่าจะออกหุ้นกู้เพิ่มเติมเพื่อใช้ในส่วนนี้อีก 1.5-2.0 พันล้านบาท
อีกส่วนหนึ่งบริษัทอาจจะออกหุ้นกู้เพื่อนำไปลดภาระเงินกู้ที่ปัจจุบันมีอยู่ 8 พันล้านบาท มีภาระอัตราดอกเบี้ย MLR-2% ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนการเงินมาเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ จากปีก่อนที่บริษัทสามารถลดต้นทุนเงินกู้ได้เพียง 2 พันล้านบาท(จากหนี้ทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท)อัตราดอกเบี้ย MLR-3% แต่ในส่วนนี้ต้องรอให้ underwriter มาประเมินตัวเลขอีกครั้งก่อน
"เชื่อว่าดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่เราจะออกจำนวนหุ้นกู้เท่าไรขึ้นอยู่กับข้อเสนอของแบงก์ ถ้าเราได้รับ MLR-3% ก็โอเค ดอกเบี้ยจะเหลือ 2.8% หรือถ้าออกหุ้นกู้ก็จะได้ดอกเบี้ยคงที่ ก็ต้องรอ underwrter มาดู .. คิดว่าจะออก 3 ปี 5 ปี ถ้าออก(ระยะ)ยาวดอกเบี้ยก็แพง วงเงินที่จะออกขายตอนนี้คุยกันอยู่ คิดว่าเร็วๆ นี้หรือไม่ภายในครึ่งปีแรกน่าจะรู้ หรือไม่ก็ภายในกรกฎาคมนี้"นางสุทธิดา กล่าว