นายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการลงทุน (ประเทศไทย) บลจ.อเบอร์ดีน คาดว่า ตลาดหุ้นไทยในปี 53 จะมีความผันผวน และราคาหุ้นไทยในปัจจุบันไม่ถือว่าถูกอีกต่อไป ดังนั้น ควรเลือกลงทุนจากปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ ซึ่งมองว่านักลงทุนจะกลับมาให้ความสนใจหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น
ตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงจากปัญหาการเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแผนการใช้จ่ายของภาครัฐเกิดความล่าช้า และอาจถึงขั้นต้องยกเลิก ขณะที่ในช่วงปลายเดือน ก.พ.53 จะมีการตัดสินใจคคดีสำคัญคือ คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะมีเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นบ้าง
รวมทั้ง ปัญหามาบตาพุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบมากกว่าที่คาด และเป็นตัวอย่างไม่ดีของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนและปฎิบัติตามกฎเกณฑ์แล้ว แต่กลับถูกเปลี่ยนแปลงภายหลัง ทำให้โครงการลงทุนต้องหยุดชะงัก และเกิดความกังวลในอนาคตว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกหรือไม่ จึงถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ควรได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกอยู่บ้างจากสภาพคล่องที่มีค่อนข้างมาก และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลจะมีมากขึ้น และรายได้ของบริษัทเอกชนจะมีมากขึ้น ดังนั้น การปรับตัวลดลงมาของดัชนีตลดาหุ้นอาจเป็นโอกาสการลงทุนระยะยาวที่จะเข้ามาซื้อหุ้น ทั้งนี้ อเบอร์ดีน ไม่ได้มองเป้าดัชนีตลาดหุ้น แต่ให้เลือกลงทุนในหุ้นเป็นรายตัว
"การเมืองที่จะร้อนแรงจริงๆ ก็น่าจะเดือนนี้ หลังจากนี้ไปค่อยดูกันไป คงต้องใช้เวลาแก้ไขระยะยาว คงแก้ภายใน 1-2 เดือนคงไม่ได้" นายอดิเทพ กล่าว