ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 111.32 จุด หลังสหรัฐเผยยอดทำสัญญาขายบ้านเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 3, 2010 06:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ นอกจากนี้ ผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้บริโภคและอุตสาหกรรม อาทิ เวิร์ลพูล คอร์ป และ คัมมินส์ อิงค์ ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าอัตราการอุปโภคบริโภคในสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งในระยะใกล้นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 111.32 จุด หรือ 1.09% ปิดที่ 10,296.85 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 14.13 จุด หรือ 1.30% ปิดที่ 1,103.32 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 18.86 จุด หรือ 0.87% ปิดที่ 2,190.06 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.18 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.50 พันล้านหุ้น

นักวิเคราะห์จากบริษัท Solaris Asset Management LLC ในนิวยอร์กกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักต่อเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.0% แตะที่ 96.6 จุด หลังจากรัฐบาลใช้นโยบายลดหย่อนภาษีให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก

ความต้องการซื้อบ้านพุ่งทะยานขึ้นในปีที่แล้ว เนื่องจากผู้ซื้อบ้านหลังแรกได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษี 8,000 ดอลลาร์ของรัฐบาล นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านใหม่จากเดิมที่หมดอายุในวันที่ 30 พ.ย.2552 ไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.2553 ซึ่งคาดว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านของสหรัฐในช่วงเดือนต่อๆไปให้พุ่งสูงขึ้นอีก

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงขานรับรายงานที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคการผลิตของสหรัฐ ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 58.4 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 54.9 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 จุด

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทที่ธุรกิจเกี่ยวกับผู้บริโภคและอุตสาหกรรม อาทิ เวิร์ลพูล คอร์ป และ คัมมินส์ อิงค์ ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าอัตราการอุปโภคบริโภคในสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ยื่นร่างงบประมาณประจำปี 2553 มูลค่ารวม 3.8 ล้านล้านดอลลาร์แก่สภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยโอบามามุ่งเน้นการนำงบประมาณไปใช้ในการสร้างงานเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการขึ้นภาษีบุคคลร่ำรวยและลดยอดขาดดุลงบประมาณ

ทั้งนี้ หุ้นเวิร์ลพูลปิดบวก 8.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2552 ขณะที่หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปิดบวก 2.4%

ส่วนหุ้นเอ็กซอนโมบิลปิดบวก 1.2% หลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเอ็กซอนโมบิลขึ้นสู่ระดับ ‘buy" จากเดิมที่ระดับ “neutral"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ