PTTEP เตรียมสรุปสัดส่วนหุ้นเชฟรอน-รัฐบาลเวียดนามในธุรกิจท่อส่งก๊าซ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 3, 2010 15:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้มีการจัดตั้งบริษัทพีทีทีอีพี เซาท์เวสต์ เวียดนาม ไพพ์ไลน์ จำกัด เพื่อวางท่อส่งก๊าซรองรับโครงการสำรวจและผลิตแหล่งก๊าซธรรมชาติ แปลง B48/95 และ B52/97 ที่เป็นความร่วมมือกับเชฟรอน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ในอ่าวไทยถัดจากแหล่งอาทิตย์ลงมาทางใต้ และอยู่ในเขตประเทศเวียดนาม

บริษัทคาดว่าการสรุปการลงทุนในบริษัทดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้ โดยจะต้องรอข้อตกลงจากทางประเทศเวียดนามด้วย เนื่องจากเป็นการจัดตั้งในรูปรัฐวิสาหกิจร่วมกับรัฐบาลเวียดนาม เพราะผลผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเซนเสทจะจำหน่ายให้กับรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนาแหล่งปประมาณ 4-5 ปี เบื้องต้นพบก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทในบริเวณดังกล่าวในปริมาณพอสมควร

"บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่เพื่อรองรับการทำท่อส่งก๊าซจากแหล่งบริเวณอ่าวไทยที่อยู่ในเขตเวียดนาม ไม่เกี่ยวกับแหล่งอื่นในเวียดนาม ยังไม่มีการสรุปตัวเลขเงินลงทุน คาดว่าใช้เวลาสำรวจ 4-5 ปีในแหล่งนี้ "นายอนนต์ กล่าว

วานนี้ PTTEP รายงานว่าได้จัดตั้งบริษัท พีทีทีอีพี เซาท์เวสต์ เวียดนาม ไพพ์ไลน์ มีทุนจดทะเบียน 50,000 เหรียญสหรัฐฯ ประกอบด้วย หุ้นสามัญ จำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 เหรียญสหรัฐฯ

ส่วนการขุดเจาะและสำรวจในอิหร่านที่มีปัญหาความกดดันสูง นายอนนต์ กล่าวว่า บริษัทยังคงไม่ได้ยกเลิกโครงการอิหร่านซาเว่ห์หรือขายแหล่งดังกล่าว แม้ว่าจะมีปัญหาหัวขุดเจาะได้เจอกับความกดดันสูง เพราะเบื้องต้นพบน้ำมันและคอนเดนเสท แต่ต้องมีการให้ศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้งว่าจะขุดเจาะหลุมใหม่หรือใช้วิธีการอื่น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเหมือนในอดีตอีก

นอกจากนั้น บริษัทยังศึกษาการลงทุนเพิ่มเติมในกลุ่มก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในประเทศพม่า อินโดนีเซีย และออสเตรเลียเพิ่มเติม ซึ่งหวังว่าปีนี้จะได้เห็นเพิ่มเติมและเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องถ่านหิน PTTEP จะไม่เข้าไปลงทุน เป็นเรื่องของ PTT เท่านั้น

"ตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาที่จะสรุปดีลได้ และจะได้เห็นดีลไหนก่อน แต่ยังศึกษาประเทศแถบนี้เป็นส่วนใหญ่ เราสนใจประเทศที่มีศักยภาพอย่าง พม่า อินโดฯ และออสเตรเลีย"นายอนนต์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการของ PTTEP ในปี 53 บริษัทคาดว่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกับปริมาณการขายปิโตรเลียมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.54 แสนบาร์เรล/วัน จากปี 52 ที่ 2.32 แสนบาร์เรล/วัน และราคาขายน้ำมันเฉลี่ยเพิ่มเป็น72 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ปีก่อนอยู่ที่ 61-62 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ มองว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 4/52 จะเป็น Bottom Out ของ PTTEP และคาดการณ์ปี 53 กำไรเติบโตสูงถึง 90% YoY เป็น 42,108 ล้านบาท ปัจจัยบวกที่สำคัญคือ 1.การเพิ่มขึ้นของปริมาณสำรองฯ ที่พิสูจน์แล้ว 16.4% 2.คาดการณ์ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น 3.คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นในปี 53 จากแหล่ง MTJDA 4.รับรู้เงินชดเชยประกันภัย จากแหล่งมอนทาราอีก 226 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคิดสุทธิจากภาษีแล้วจะเหลือ 115 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทยอยเข้ามาในปี 53

ขณะที่ปริมาณการขายปี 53 ที่ 254,000 บาร์เรล/วัน ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ 300,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากพลาดเป้าหมายการผลิตจากโครงการมอนทารา และ MTJDA


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ