ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกปัญหาหนี้ยุโรป,ตัวเลขว่างงาน ฉุดดาวโจนส์ร่วง 268.37 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 5, 2010 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลในประเทศยุโรปทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะอ่อนแอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และอาจทำให้ภาคเอกชนชะลอการจ้างงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลง 268.37 จุด หรือ 2.61% ปิดที่ 10,002.18 จุด ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 34.17 จุด หรือ 3.11% ปิดที่ 1,063.11 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 65.48 จุด หรือ 2.99% ปิดที่ 2,125.43 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.121 หมื่นล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 14 ต่อ 1

นักวิเคราะห์จากบริษัท Merriman Curhan Ford ในเมืองซานฟรานซิสโกกล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นในประเทศยุโรป รวมถึงกรีซและโปรตุเกส โดยเฉพาะกรีซที่กำลังหาทางระดมทุนจากนักลงทุนทั่วโลกเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่มีอยู่เกือบ 13% ของตัวเลขจีดีพี และสูงสุดที่สุดในบรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จนทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูยื่นมือเข้ามาตรวจสอบตัวเลขรายรับจากการจัดเก็บภาษีและงบประมาณการใช้จ่ายของกรีซ

นักลงทุนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลกรีซจะสามารถจัดการกับตัวเลขหนี้สาธารณะได้ แม้นายกรัฐมนตรี จอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซ ประกาศมาตรการสร้างวินัยการเงินการคลังขั้นเฉียบขาด เพื่อพยุงให้กรีซรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน นอกจากนี้ กรีซยังถูกสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P, มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือด้วย

ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันอย่างหนัก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค.เพิ่มขึ้น 8,000 ราย แตะที่ 480,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 460,000 ราย

รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลง 22,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งน้อยกว่าเดือนธ.ค.ที่ร่วงลง 61,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 30,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานทำให้นักลงทุนจับตาดูข้อมูลการจ้างงานซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานเดือนม.ค.จะอยู่ที่ระดับ 10% อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 13,000 คน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในปี 2553

ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นได้ฉุดราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงน้ำมันดิบ และฉุดราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ปิดร่วง 4.3% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน ปิดลบ 5.3% หุ้นเอ็กซอนโมบิล ปิดร่วง 2.8% และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ปิดลบ 2.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ