บมจ.ซิโนไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) คาดว่า ในปี 53 จะมีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น) 5% จากระดับ 4%ในปี 52 เนื่องจากงานที่ได้รับเข้ามาใหม่มีมาร์จิ้นดีขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 2/53 บริษัทจะเซ็นสัญญารับงานใหม่มูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่างานในมือ(backlog)เป็น 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนั้นก็จะยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้ง 5 สัญญา บางสัญญาก็จะดึงต่างชาติเข้ามาร่วมงานด้วย
นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร กรรมการผู้จัดการ STEC กล่าวว่า แนวโน้มอัตรากำไรในปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้วหลังจากได้งานใหม่เพิ่มเข้ามา ทำให้ backlog มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ดีขึ้น ส่วนรายได้คาดว่าใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ราว 1.2 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จาก backlog 8 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/53 จะเซ็นสัญญารับงานเพิ่มอีก 4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานสร้างก่อสร้างอาคารของศาลฎีกา และงานโครงการท่อส่งน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งจะทำให้ backlog เพิ่มเป็น 2.1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มี 1.7 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทกำลังเตรียมพร้อมเข้ายื่นซองประกวดราคางานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้ง 5 สัญญาในวันที่ 29 เม.ย.ตามที่รฟม.กำหนด โดยบางสัญญามีความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ติดต่อเข้ามาแล้ว เพราะบางงานจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น งานก่อสร้างช่วงทางลอดใต้แม่น้ำ บริษัทคาดหวังว่าจะได้งาน 1-2 สัญญา
"เราพร้อมจะยื่นทั้ง 5 สัญญาอยู่แล้ว เรื่องการเงินไม่ต้องห่วง มีแบงก์ไทยพาณิชย์และแบงก์กสิกร support อยู่ คาดหวังว่าเราจะได้ซัก 1-2 สัญญา...ถ้างานในประเทศมาก ในปีนี้งานต่างประเทศเราก็จะไม่รับ ปีนี้ถ้าได้งานใหม่ 2 หมื่นล้านบาทก็โอเคแล้ว"นายวัลลภ กล่าว
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ในเดือน ก.พ.53 งบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็งจะเริ่มทยอยออกมาอีก เชื่อว่าจากนี้ไปงานรับเหมาก่อสร้างภาครัฐก็จะมีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนั้น ในช่วงต้นเดือน มี.ค.53 คณะกรรมการบริษัทจะมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลของงวดปี 52