ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวแดนลบ กังวลปัญหายุโรป-การเมืองในปท.เข้มข้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 8, 2010 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นเช้านี้เคลื่อนไหวแกว่งตัวในแดนลบ จากปัจจัยความกังวลปัญหาหนี้สินของบางประเทศในแถบยูโรโซน ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่ามาก เงินไหลไปที่ตลาดหุ้นสหรัฐที่รับประโยชน์จากงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และยังกัลวลว่าปัญหาอาจจะลุมลามออกไปอีก รวมทั้งประเด็นที่กลั่ม G-7 ให้แบงก์ที่ได้รับความช่วยเหลือในสหรับและยุโรปส่งเงินคืน ขณะที่ปัจจัยในประเทศการเมืองเพิ่มความเข้มข้น แนวรับวันนี้อยู่ที่ 682 แนวต้าน 696

นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีการเทรดแบบไซด์เวย์อยู่ในแนวลบ จากปัจจัยภายนอกที่ยังกดดัน โดยเฉพาะในตลาดยุโรปที่มีความกังวลการขาดดุลการคลังของประเทศกรีซ สเปน และโปรตุเกส ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง และดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

ดังนั้น อาจทำให้มีแรงเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงออกมา และการลงทุนจะไหลไปสู่ตลาดหุ้นสหรัฐที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงิน เพราะยังมีความกังวลว่าปัญหาอาจจะลุกลามต่อไปในอนาคต รวมทั้งการประชุมกลุ่ม G-7 ได้ให้แบงก์ในยุโรปและสหรัฐที่ได้รับความช่วยเหลือส่งเงินคืน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรของแบงก์

ส่วนปัจจัยในประเทศยังมีแรงกดดันจากการเมืองที่มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

วันนี้ให้แนวรับที่ 682 แนวต้าน 696

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์(5 ก.พ.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,012.23 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด(+0.10%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,066.18 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด(+0.29%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,141.12 จุด เพิ่มขึ้น 15.69 จุด(+0.74%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 660.89 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ 70.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.95 ดอลลาร์
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงต่ำกว่าระดับทางจิตวิทยาที่ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากสกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นและฉุดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกดิ่งลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการปิดลบของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานลดลงเมื่อวันศุกร์
  • ประเดิมเดือนแรกปี 2553 พิษการเมืองวุ่นวาย ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมตลาดหุ้นไทยหด 3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ถูกถล่มขาย ขณะที่ภาพรวมดัชนีหุ้นปรับตัวลง 5.71% โดยแบงก์กรุงศรีแชมป์ราคาร่วง ส่วน ปตท.เคมิคอล สวนทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านโบรกเกอร์แจงเหตุตลาดทรุด เพราะพิษการเมืองวุ่น ผิดหวังรัฐแก้ปัญหามาบตาพุดช้าไป จับตาผลการตัดสินคดีความการเมืองกดดันตลาดหุ้นเดือน ก.พ.ไม่ไปไหน
  • กรณ์หาช่องขยายฐานภาษี-เอกชนเป็นพระเอกลงทุน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังเปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีการวิเคราะห์ภาระงบประมาณระยะยาว พบปัญหาว่าเพิ่มขึ้นจนต้องเข้าไปควบคุม เพราะฐานภาษีที่อยู่เท่าเดิมเก็บได้ 15% ของจีดีพี ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับต่างประเทศเก็บได้ 20-30% ของจีดีพี บางประเทศเก็บได้ 50% ของจีดีพี
  • รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลที่ได้จัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์แคปปิตอลฟันด์) ขึ้นมาตั้งแต่ปี'43 ในเดือนก.ค.53 นี้กองทุนดังกล่าวจะต้องปิดตัวลง แต่พบว่าเป้าหมายในการจัดตั้งเพื่อร่วมลงทุนและคัดสรรกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต ดึงดูดนักลงทุนให้สนใจเข้ามาเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ นั้น ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์เกษตรแปรรูป ยังขยายตัวดี
  • นักธุรกิจจีนแห่ลงทุนไทยปี 52 มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาทพุ่งจากปี 51 ที่มีแค่ 1.5 พันล้านเท่านั้น เผยรัฐบาลจีนส่งเสริมเอกชนลงทุนต่างแดน หวังหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ ระบายเงินทุน ด้านบีโอไอ เตรียมรีแพ็คเกจมาตรการสิทธิประโยชน์รองรับ พร้อมจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เร่งเปิดสำนักงานในจีนเพิ่มเป็น 4 แห่งดึงดูดลงทุนให้ทั่วถึง
  • "จตุพร" เลิกเข้าขอโทษ "พัลลภ" อัดทำตัวไม่สมอายุ หมดความเกรงใจ ซัดพวก"ของปลอม" ขู่กระชากหน้ากาก "เสธ.แดง" หากไม่หยุดเคลื่อนไหวพาดพิง นปช.อัดคนโง่ประกาศทำงานใต้ดิน เปรียบเห็น "ขอนไม้" กลางน้ำ หลงไปเกาะที่แท้เป็น "หมาเน่า" หวั่นร่วมมือด้วยจะพาผู้บริสุทธิ์ไปตาย "ขัตติยะ" ไม่สนตื้ออยู่ต่อช่วยเสื้อแดง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ