นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 53 ซึ่งครบรอบ 11 ปีของการก่อตั้งบริษัทฯว่า แนวนโยบายจะเน้นเชิงรุกมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งของโครงการที่มุ่งเน้นทำเลใจกลางเมือง ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งคมนาคม เดินทางสะดวก
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/53 บริษัทฯ จะเปิดตัวคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเหมือนกับโครงการอื่นๆ ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการวินด์ รัชโยธิน มูลค่า 1,600 ล้านบาท โครงการวินด์ สุขุมวิท 23 มูลค่า 1,200 ล้านบาท และโครงการอกัสตัน สุขุมวิท 22 มูลค่า 2,000 ล้านบาท
ส่วนแผนการตลาดในปีนี้ยังคงเน้นการทำการตลาดโดยตรง (Direct Marketing) ซึ่งเป็นการทำการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการจัดโรดโชว์หรือการจัดอีเว้นท์ในห้างสรรพสินค้าระดับบนเป็นประจำทุกไตรมาส ซึ่งจะผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเติบโตจากปีก่อนอย่างแน่นอน
“เราจะเดินเกมรุกให้มากขึ้น โดยในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ ในช่วงไตรมาส 2 โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดรับกับทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัว และความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมยังมีอยู่สูง เมื่อเทียบกับโครงการแนบราบและบ้านปลูกสร้างเอง โดยเฉพาะโครงการที่มีระยะห่างจากแนวรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 53 มีแนวโน้มที่จะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว รวมถึงการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ และทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในระยะต่อไป
“ผมมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนแน่นอนโดยเฉพาะตลาดระดับบน เพราะนอกจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจะเป็นแรงหนุนแล้ว มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ทั้งมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม รวมถึงมาตรการทางภาษี ก็ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้มีความคึกคัก ทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่และการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์" นายสุริยน กล่าว