นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ไว้ที่ 700 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM)เป็น 3 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่ 2.34 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.79%
บริษัทเน้นกลยุทธ์“Customer Centric"คำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งเตรียมขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปสู่กลุ่ม Young Generation และวัยเกษียณมากขึ้น พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐด้วยการเป็นที่ปรึกษาแบบมืออาชีพ ตอกย้ำเป็นมันสมองทางการลงทุนให้นักลงทุนทุกกลุ่ม หวังครองความเป็น 1 ในใจลูกค้าในโอกาสครบรอบ 35 ปี
ด้านนายศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนออกกองทุนใหม่ 30 กองทุน จากปีก่อน 32 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ 12 กองทุน กองทุนตราสารทุน 1 กองทุน กองทุนผสม 5 กองทุน กองทุนต่างประเทศ 7 กองทุน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 5 กองทุน โดยปีนี้จะเน้นขยายกลุ่มลูกค้า Young Generation และวัยเกษียณ ไปพร้อมๆ กัน และตั้งเป้ารายได้จากการแสวงหาตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศร้อยละ 30 ของรายได้รวม
ส่วน Private Equity ในปีนี้ กองทุน MFC Energy Fund จะเน้นเรื่องพลังงานชีวมวล (Biomass) และพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นหลัก รวมทั้งการระดมทุนสำหรับกองทุน Thailand Creativity Fund การศึกษาเรื่องการพัฒนาพลังงานทดแทน เช่นกัน
นายพิชิต กล่าวว่า ในปี 52 บริษัทบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จำนวน 44 กองทุน เป็นบริษัทนายจ้าง 546 แห่งมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมปี 52 ที่ 60,816.49 ล้านบาท โดยมีบริการสำหรับลูกค้า ได้แก่ บริการข้อมูลพอร์ตการลงทุนผ่านเวบไซด์ การจัดบรรยายให้ความรู้ด้านการลงทุน ณ สำนักงานของลูกค้า และการจัดสัมมนาพิเศษ เป็นต้น ขณะที่กองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 23,502 ล้านบาท ลูกค้ารายใหญ่ได้แก่ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สภากาชาดไทย
ส่วนลูกค้าที่เป็นองค์กรของภาครัฐบาลนั้น บริษัทมีความพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการของภาครัฐอย่างเต็มที่โดยการเป็นที่ปรึกษามืออาชีพทั้งการบริหารจัดการกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) กองทุนส่วนบุคคล (Private Equity) และเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisory)
ทั้งนี้ ในปี 52 บริษัทได้เป็นที่ปรึกษาการจัดตั้งกองทุน Thailand Carbon Credit ในประเทศไทย และที่ปรึกษาโครงการวางระบบการลงทุนของกองทุนบริหารเงินกู้ เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ให้แก่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)