นางสุวรรณา พุทธประสาท กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.คลอลิตี้เฮ้าส์(QH)กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทจะมีการเพิ่มเม็ดเงินซื้อที่ดินใหม่ในปีนี้เป็น 3.5-4.0 พันล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 2.5-3.0 พันล้านบาท หลังจากบริษัทสามารถประเมินงบลงทุนใหม่ได้จากข้อสรุปเบื้องต้นการเจรจาซื้อที่ดินเพื่อรองรับโครงการคอนโดมิเนียม 2-3 โครงการที่เพิ่มเติมเข้ามาจากแผนงานเปิดตัวโครงการแนวราบ 13 โครงการในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทจะทยอยเปิดโครงการคอนโดมิเนียมดังกล่าวในช่วงไตรมาส 3/53 โดยได้สรุปการซื้อที่ดินแล้ว 2 โครงการ และอีก 1 โครงการที่อยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าจะได้ข้อยุติได้ในช่วงต้นไตรมาส 2/53
"การเพิ่มโครงการคอนโดมิเนียมเป็นการรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น หลังจากที่บริษัทเห็นกระแสการตอบรับจากโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดไปแล้ว 2 แห่ง คือ ที่หลังสวน และสาทร"นางสุวรรณา กล่าว
สำหรับปี 53 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตค่อนข้างมาก เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมที่เปิดไป 2 โครงการ คือที่สาทรและหลังสวน มากกว่า 3,000 ล้านบาท และมาจากโครงการเดิมที่จะทยอยรับรู้รายได้หลังจากเปิดขายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยการเมืองที่เป็นเรื่องน่ากังวล
นางสุวรรณา กล่าวว่าถึงการขายหุ้นใน บมจ.ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์(Q-CON)ว่า เนื่องจากบริษัทได้ถือหุ้น Q-CON ในระยะเวลานานแล้ว แต่ขณะนี้ได้ผลตอบแทนการลงทุนค่อนข้างน้อย ประกอบกับบริษัทจะหันมาพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักและสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง
"หลังจากที่เราขาย Q-CON คงยังไม่เห็นการลงทุนในรูปแบบนี้อีก แต่การขายครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นรูปแบบการลงทุนปกติ ที่เมื่อลงทุนแล้วไม่ได้ผลตอบแทนตามที่วางไว้ ก็ควรต้องพิจารณาขายหุ้น และเราก็มา focus ในธุรกิจเราอย่างเดียว ส่วนจะไปลงทุนลักษณะนี้อีกหรือไม่ ยังไม่ใช่ตอนนี้"นางสุวรรณา กล่าว
เช้านี้ Q-CON ระบุว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่จะขายหุ้นจำนวน 204 ล้านหุ้น หรือ 51% ในราคา 4 บาท ต่อหุ้น ประกอบด้วย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH) ,บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์(QH) ,บริษัท คิว.เอช.อินเตอร์เนชั่นแนล และ บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(AP)
นางสุวรรณา กล่าวว่า ในส่วนของ QH ได้จำหน่ายหุ้น Q-CON จำนวน 103.125 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4 บาท เป็นเงินรวม 412.5 ล้านบาท คาดว่าจะบันทึกรายได้อย่างเร็วในไตรมาส 1/53 หรือไตรมาส 2/53