ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกปัญหาหนี้ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 103.84 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 9, 2010 06:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ สเปน และโปรตุเกส อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอกตัวลงด้วย นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มธนาคารยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 103.84 จุด หรือ 1.04% แตะที่ 9,908.39 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 9.45 จุดหรือ 0.89% แตะที่ 1,056.74 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 15.07 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 2,126.05 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 7.91 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 5

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะและยอดขาดดุลงบประมาณของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ สเปน และโปรตุเกส ส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้น โดยเมื่อวานนี้ รมว.คลังของกรีซออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลเตรียมใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีบางประเภทเพื่อกระตุ้นเม็ดเงินคงคลัง แต่กลุ่มลูกจ้างในกรีซได้แสดงความไม่พอใจและเตรียมก่อเหตุประท้วงในวันพุธ

นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลกรีซจะสามารถแก้ปัญหายอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะได้ แม้นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซ ประกาศมาตรการวินัยด้านการเงินการคลังที่ครอบคลุมถึงการระงับการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และขึ้นภาษีเชื้อเพลิง เพื่อพยุงให้กรีซรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรง นอกจากนี้ นายปาปันเดรอูได้เรียกร้องให้ประชาชนและคู่แข่งทางการเมืองสนับสนุนมาตรการของเขาเพื่อช่วยไม่ให้สถานะการเงินของประเทศย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแสดงความคิดเห็นทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวค่อนข้างช้า ซึ่งสภาวะเช่นนี้จะยิ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นดิ่งลง เนื่องจากราคาหุ้นมีผลกระทบที่สำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และคาดว่าอัตราว่างงานในปีนี้จะทรงตัวอยู่ระหว่าง 9-10%

นักลงทุนจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค. และกระทรวงการคลังจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนม.ค. ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค. วันศุกร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.พ.ของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ