บมจ.สัมมากร (SAMCO)เดินหน้ารีแบรนดิ้งปรับภาพลักษณ์หลุดจากความเป็น"หมู่บ้านสัมมากร"ไปสู่แบรนด์ที่หลากหลายขึ้น โดยจะมีการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ Aqua และ Flora โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่ารวม 2.1 พันล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ พร้อมเตรียมงบลงทุน 250-300 ล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินใหม่รองรับการพัฒนาต่อไป ตั้งเป้าปี 53 ยอดขายเติบโต 13% ท่ามกลางคาดการณ์ตลาดแข่งขันรุนแรง-กำลังซื้อลดลงจากปีก่อน
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ SAMCO กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าปี 53 ยอดขายเติบโต 13% จากปี 52 ที่ทำยอดขายเติบโตได้ถึง 35% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แค่ 15% ส่วนกำไรน่าจะเติบโตได้มากกว่ารายได้เช่นเดียวกับปี 52 ที่รายได้อาจโตแค่ 5% แต่กำไรเติบโตถึง 30%
"ปี 52 เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่สัมมากรได้รับผลทั้งในแง่ยอดขายและพฤติกรรมลูกค้าดีเกินคาด มีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการจำนวนมาก และมีการแนะนำจากลูกค่าเดิม ในจำนวนนี้ปิดการขายได้กว่า 90% ซึ่งเป็นผลจากแผนกระตุ้นภาษีจากรัฐบาล ประกอบกับ ภาวะเงินฟ้อที่ติดลบมาหลายไตรมาส รวมทั้งดอกเบี้ยที่ลดต่ำ ส่งผลให้กำลังซื้อของลูกค้าสูงขึ้น" นายกิตติพล กล่าว
นายกิตติพล กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีความจำเป็นต้องรีแบรนดิ้งด้วยการเพิ่มแบรนด์ใหม่ เพื่อตั้งกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น การขายก็จะตรงจุดกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยยังคงเน้นการพัฒนาบ้านเดี่ยว ขณะที่ศึกษาลู่ทางพัฒนาคอนโดมิเนียมด้วย แต่ยังไม่มีความพร้อมในระยะนี้ เพราะบริษัทไม่มีที่ดินในเมือง และมองว่ามีความเสี่ยงและการแข่งขันสูง อีกทั้งบริษัทไม่มีความถนัด
บริษัทมีแผนจะเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ Aqua Didina ขนาด 65 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินระดับราคา 6-10 ล้านบาท/หลังช่วงก.ย.นี้ และ โครงการ Flora Didina ขนาด 45 ไร่ เป็นบ้านพร้อมที่ดินระดับราคา 3 ล้านบาทช่วงปลายปีนี้ ซึ่งทั้งสองโครงการน่าจะทำยอดขายเข้ามาเต็มที่ในช่วงปี 54
ปัจจุบัน บริษัทมี 9 โครงการ ได้แก่ ย่านราชพฤกษ์ ,รามคำแหง ,นครอินน์ ,รังสิตคลอง 2 และ คลอง7 ,มีนบุรี 1-2 และ บางกะปิ
สำหรับสาเหตุที่บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตลดลงจากปีก่อน เนื่องจากมองว่าปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีการแข่งขันสูงขึ้น และมีปัจจัยลบเพิ่มขึ้น ทั้งการเมืองในประเทศ ราคาน้ำมันปรับและราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ทำให้ความต้องการเหล็กและปูนซิเมนต์เพิ่มขึ้น ประกอบกับ โครงการเมกะโปรเจ็คต์ของภาครัฐก็น่าจะทำให้ราคาขยับขึ้นค่อนข้างเร็วขึ้นอีก แต่คงไม่หวือหวามาก
บริษัทคาดว่าการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 53 น่าจะอยู่ในระดับ 5-10% โดยจะเติบโตทุก segment แต่จะเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากกำลังซื้อในปี 52 มีไปค่อนข้างมากแล้ว การฟื้นตัวไม่น่าจะหวือหวา แต่บริษัทก็เชื่อว่าการที่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบ้านเดี่ยวน่าจะทำให้เติบโตได้มากกว่าตลาด เพราะซัพพลายบ้านเดี่ยวในปีนี้ลดลง
นายกิตติพล กล่าวว่า บริษัทเตรียมงบซื้อที่ดิน 250-300 ล้านบาทเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ พร้อมกับศึกษาการยายธุรกิจช็อปปิ้งมอลล์ โดยเล็งทำเลถนนราชพฤกษ์ตั้ง"เพียว เพลส"สาขา 3 คาดใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาทในปี 54 ขณะที่สาขา 2 หน้าหมู่บ้านสัมมากรรามคำแหงจะเปิดให้บริการได้ราวไตรมาส 4/53