บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)คาดว่าในปี 53 บริษัทจะมีรายได้รวมขยายตัว 7-9% จากปีก่อนมีรายได้ 65,700 ล้านบาท(ไม่รวม IC) และตั้งงบลงทุนในปีนี้จำนวน 6 พันล้านบาทเพื่อขยายโครงข่ายต่อเนื่อง ไม่รวมการลงทุนระบบ 3G พร้อมทั้งมั่นใจปีนี้และปีต่อ ๆ ไปจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ตามนโยบายใหม่
ส่วนการลงทุนระบบ 3G บริษัทได้กันเงินส่วนหนึ่งจากกระเสเงินสดที่มีมากถึง 1.4 หมื่นล้านบาทไว้แล้ว หลังจากแบ่งจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น
นายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC มองว่า การลงทุนระบบ 3G บนความถี่ 2.1 กิ๊กกะเฮิร์ตซ ต้องใช้เงินจำนวนมาก และในระยะกลางน่าจะเกิดขึ้นก่อนการพัฒนาระบบ3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz อย่างไรก็ตาม ทั้งสองทางก็ยังล่าช้าอยู่
ขณะที่ปีนี้ DTAC จะเน้นให้ความสำคัญการขยายเครือข่ายเดิมที่ให้บริการอยู่มากขึ้น โดยงบลงทุนที่ตั้งไว้ 6 พันล้านบาทในปีนี้เท่ากับปีก่อน ซึ่งการลงทุนในปี 52 แบ่งส่วนหนึ่งไปใช้ในการสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ราว 1 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้ลงทุนขยายเครือข่าย
สำหรับกรณีที่บริษัทปรับเปลี่ยนนโยบายจ่ายเงินปันผลมาเป็นไม่ต่ำกว่า 50% จากเดิมกำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ เพราะต้องการคืนเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นได้มากขึ้น หลังจากภาระหนี้ของบริษัทลดลง 9 พันกว่าล้านบาทในปีที่แล้ว ทำให้ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น และอัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทต่ำมาก อยู่ที่ 0.2 เท่า และปี 53 น่าจะยังคงนโยบายจ่าย 50% จนกว่าคณะกรรมการบริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลง
การนำเงินสดในมือไปจ่ายเงินปันผลมากขึ้น ไม่กระทบกัลบแผนการลงทุนของบริษัท เพราะบริษัทได้กันเงินไว้สำหรับการลงทุนโครงข่าย 3G ไว้แล้ว
"เราประเมินแล้วว่า ถ้ารวมลงทุน 3G เราก็ยังจ่ายเงินปันผลได้ เพราะหนี้สินเราลดลง และผลประกอบการปี 53 ยืนยันจะจ่ายปันผล 50% ไปเรื่อยๆ จนกว่าบอร์ดจะเห็นเป็นอื่น"นายจอห์นเซ่น กล่าว
นายจอห์นเซ่น กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังเน้นสร้างคุณภาพลูกค้า ไม่เน้นปริมาณ โดยต้องการลูกค้าที่อยู่กับบริษัทนาน ๆ อีกด้านหนึ่งก็ยังเดินหน้าลดต้นทุนการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง หลังจากปี 52 บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ดี
ส่วนการทำตลาดสมาร์ทโฟน คาดว่าในเดือน มี.ค.53 จะเห็นทิศทางชัดเจนมากขึ้น จากเมื่อปลายปีบริษัทได้เปิดตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ BlackBerry และให้การบริการ โดยปัจจุบันมียอดลูกค้าที่ใช้บริการกว่า 3 หมื่นราย