นายชวน ตั้งมติธรรม บมจ.มั่นคงเคหะการ(MK) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทได้เพิ่มงบประมาณเพื่อจัดซื้อที่ดิน จาก 500 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มองว่าจะฟื้นตัวมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน 2-3 แปลง มีพื้นที่ขนาดกลางและขนาดใหญ่
และในปีนี้ จะได้เห็นโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมใหม่ขนาด 8 ชั้น จำนวน 1 โครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาจัดซื้อที่ดินโซนทิศเหนือของกรุงเทพฯ โดยมูลค่าโครงการอาจจะไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทเพิ่งเริ่มพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โดยโครงการดังกล่าวจะเป็น 1 ใน 3 โครงการที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้
บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการภายในปีนี้ ซึ่งในไตรมาส 1/53 จะเปิดตัวโครงการ ชวนชื่น บรู๊คไซด์ มูลค่า 360 ล้านบาท และ ไตรมาส 3/53 เปิดเฟสใหม่โครงการชวนชื่น ซิตี้ รามอินทรา มูลค่า 500 ล้านบาท ส่วนอีก 3 โครงการ จะกำหนดเปิดตัวในปลายปี 53 ในทำเลที่มีศักยภาพ
ปัจจัยที่ส่งดีต่อการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ มาจากการลงทุนภาครัฐที่จากโครงการไทยเข้มแข็ง มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก ส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย ขณะที่สภาพคล่องตลาดเงินยังอยู่ระดับสูง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง แนวโน้มการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และการลงทุนภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นตัวจากปัญหามาบตาพุด
นายชวน กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในปี 53 ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท มาจากโครงการเดิมที่เปิดโครงการเมื่อปลายปี 52 จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,600 ล้านบาท และโครงการใหม่ที่จะเปิดในต้นปี 53 มูลค่า 1,400 ล้านบาท แต่ยังไม่รวม 3 โครงการใหม่ที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้
ส่วนยอดรับรู้รายได้ตั้งไว้ที่ 3,000 ล้านบาท จะเติบโต 20-30% จากปีก่อน มาจากการรับรู้รายได้ 2 โครงการใหม่ที่เปิดตัวปลายปีก่อน ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 1,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นโครงการต่อเนื่องที่เปิดตัวไปก่อนหน้านั้น รวมถึงโครงการใหม่ 2 โครงการที่จะเปิดขายและสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันในปีนี้จำนวน 1,800 ล้านบาท
"ที่คาดว่ารายได้และยอดขายในปีนี้จะโต 20-30% มองว่าเยอะ เพราะได้มีการเปิด 2 โครงการใหม่เมื่อปลายปี 52 ช่วง พ.ย.-ธ.ค.มียอดขาย 300 กว่าล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท แต่ปีนี้มีโอกาสที่จะรับรู้รายได้จากโครงการนี้มีอีกพันกว่าล้านบาท โอกาสการขยายตัวมาจากเราโครงการที่เปิดเมื่อปลายปีที่แล้ว และที่จะเปิดต้นปีนี้อีก 2 โครงการ" นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทเตรียมงบด้านการตลาดไว้ 3% ของยอดขายแต่ละปี และเตรียมความพร้อมเชิงรุก 3 ด้าน คือกลยุทธด้านการตลาด ที่จะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ให้หลากหลายมากขึ้น ให้สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภค เช่น ทาวน์โฮมรูปแบบทันสมัย 2-3 ชั้น และ คอมเมอเชียล ลิฟวิ่ง สเปซ ,
กลยุทธด้านการดำเนินงานจะเน้นระดับงานก่อสร้างที่จะมีการออกแบบและพัฒนาแบบที่อยู่อาศัยให้หลากหลายมากขึ้น และกลยุทธด้านการเงิน ที่บริษัทยังคงสถานะอัตราหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำ ที่ 0.33 เท่า เทียบกับอัตราเฉลี่ยในอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1.18 เท่า
นอกจากนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่องสูง โดยมีกระแสเงินสดอยู่ระดับ 100 ล้านบาท ต่อเนื่องทุกปี จึงมีความพร้อมขยายตัวรองรับการฟื้นตัวของตลาด และรองรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้