โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)คาดผลประกอบการในแง่ Operating จะดีขึ้นในปี 53 เป็นผลจากโครงการ PQI ที่จะเดินเครื่องแบบ Complex refinary เต็มทั้งปี ทำให้คุณภาพการผลิตใกล้เคียงกับ TOP และ PTTAR จากเดิมที่เป็นแบบ Simple refinary ส่งผลให้ BCP มีผลผลิตน้ำมันเตามากขึ้น และขายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นในจำนวนที่มากขึ้นด้วย ช่วยยกระดับฐานกำไรให้สูงขึ้น อีกทั้งมองว่ากระแสเงินสดของ BCP ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นด้วย จากค่าการกลั่นที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปกติของ BCP ในปี 53 จะอยู่ที่ 2,859-3,480 ล้านบาท(คิดเฉพาะ Operating)จากปี 52 อยู่ที่ 1,599-3,393 ล้านบาท แต่ปีก่อนมีรายการพิเศษเฮดจิ้งน้ำมันที่มีกำไรกว่า 5,000-6,500 ล้านบาท ทำให้รวมแล้วกำไรสุทธิในปี 52 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 7,394-8,171 ล้านบาท
นอกจากนี้ BCP ยังมีการจ่ายเงินปันผลที่ดี งวดครึ่งหลังปี 52 คาดว่าจะจ่ายปันผลอีก 1 บาท/หุ้น จากครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้ว 1 บาท/หุ้น และในปี 53 คาดว่าจะจ่าย 0.75-1.25 บาท/หุ้น และราคาหุ้นในปัจจุบันยังมี upside และ valuation ของ BCP ในปัจจุบันยังถูกกว่าโรงกลั่นอื่น ๆ และ P/E ก็ยังถูกด้วย
หุ้น BCP ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 14.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท(+0.71%)โดยเปิดตลาดที่ 14.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 14.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 14.00 บาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 21.00 บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 20.00 บล.ทิสโก้ ซื้อ 20.00
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ซื้อเก็งกำไร 18.10
บล.โกลเบล็ก ซื้อ 18.00 บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 17.60 บล.คันทรี่ กรุ๊ป ซื้อ 15.50 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 15.80 บล.ธนชาต ซื้อ 16.00 บล.ไอร่า ซื้อเก็งกำไร 16.00
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน แนะ"ซื้อ"หุ้น BCP เนื่องจากมองว่าปัจจัยพื้นฐานมีความน่าสนใจ จากการจ่ายเงินปันผลที่ดี โดยงวดครึ่งหลังปี 52 คาดว่าจะจ่ายปันผลอีก 1 บาท/หุ้น จากครึ่งแรกของปีจ่ายไปแล้ว 1 บาท/หุ้น และปี 53 คาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 0.75 บาท/หุ้น
เมื่อพิจารณาผลประกอบการของ BCP ในปี 53 คาดว่ายังเติบโตดี โดยกำไรปกติน่าจะอยู่ที่ 2,859 ล้านบาท(คิดเฉพาะ Operating)เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่คาดว่าจะมีกำไรปกติ 2,152 ล้านบาท เพียงแต่ในปี 52 BCP มีรายการพิเศษเป็นกำไรจากเฮดจิ้งน้ำมันกว่า 5,000 ล้านบาท ทำให้รวมแล้วกำไรสุทธิในปี 52 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 7,454 ล้านบาท
ในปี 53 BCP มีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในการกลั่น ทำให้สามารถขายผลิตภัณฑ์ได้ในราคาที่สูงขึ้น จากเดิมที่พึ่งพิงเฉพาะน้ำมันเตาเพียงค่อนข้างมาก และค่าการกลั่นในปีนี้คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นด้วย โดยน่าจะอยู่ที่ 4.7 เหรียญฯ/บาร์เรล สูงกว่าปีที่แล้วที่ค่าการกลั่นอยู่ที่ 3 เหรียญฯ/บาร์เรล
น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส มองว่า ราคาหุ้น BCP ยังมี upside และผลประกอบการโดยรวมของ BCP ในแง่ของ Operating จะดีขึ้นในปี 53 เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นนับตั้งแต่ปี 53 นี้เดินเครื่องแบบ Complex refinary ซึ่งก็ใกล้เคียงกับพวก TOP และ PTTAR จากเดิมที่เป็นแบบ Simple refinary ซึ่งก็จะทำให้ BCP ได้น้ำมันเตาปริมาณมาก และยังได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นในจำนวนที่มากขึ้นด้วย ก็เหมือนยกระดับฐานกำไรให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรปกติและกำไรสุทธิของปี 53 ในระดับเดียวกันที่ 3,364 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 52 ที่คาดว่าจะมีกำไรปกติ 3,393 ล้านบาท และกำไรสุทธิปี 52 คาดว่าอยู่ที่ 7,394 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไเฮดจิ้งน้ำมันเป็นรายการพิเศษเข้ามากว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้จ่ายเงินปันผลครึ่งหลังปี 52 ได้อีก 1 บาท/หุ้น และในปี 53 คาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผล 1.25 บาท/หุ้น
นายชัยพัชร ธนวัฒโน นักวิเคราะห์อาวุโส สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ผลประกอบการของ BCP จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งมองว่ากระแสเงินสดก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นด้วย ตามมาร์จินของธุรกิจน้ำมัน และการที่ได้ PQI เข้ามาด้วย
ในปีนี้ BCP ได้รับผลดีจากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน หรือ PQI ซึ่งเป็นการเดินเครื่องผลิตแบบ complex refinary ทำให้สามารถขายผลิตภัณฑ์ได้มูลค่าสูงขึ้น อีกทั้ง valuation ของ BCP ในปัจจุบันยังถูกกว่าโรงกลั่นอื่น ๆ และ P/E ก็ยังถูกด้วย
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิและกำไรปกติของ BCP ในปี 53 ไว้ที่ 3,480 ล้านบาท(ยังไม่คิดรายการพิเศษ)เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่คาดว่าจะมีกำไรปกติ 1,599 ล้านบาท แต่หากเป็นกำไรสุทธิปี 52 คาดว่าอยู่ที่ 8,171 ล้านบาท เนื่องจากได้รับกำไรจากเฮดจิ้งน้ำมันประมาณ 6,500 ล้านบาท
สำหรับการจ่ายเงินปันผลของ BCP ในครึ่งหลังปี 52 คาดว่าจะจ่ายได้อีก 1 บาท/หุ้น และในปี 53 คาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 1 บาท/หุ้น