นายวีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ กรรมการ บมจ.ไทยสโตรเรจ แบตเตอรี่(BAT-3K)เปิดเผยกับ" อินโฟเควสท์"โดยเชื่อว่าในระยะสั้น ๆ นี้จะยังไม่เห็นผู้ประกอบการแบตเตอรี่ปรับขึ้นราคาขาย แม้ว่าทางการจะส่งสัญญาณว่าเห็นใจต้นทุนราคาตะกั่วที่เป็นวัตถุดิบสำคัญเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน หลังจากที่ผู้ประกอบการยื่นขอปรับขึ้นราคามาตั้งแต่ปีก่อน แต่ขณะนี้ราคาตะกั่วยังค่อนข้างผันผวน และการแข่งขันในตลาดยังรุนแรง จึงเชื่อว่าผู้ผลิตยังน่าจะรอเวลาไปอีกระยะหนึ่งก่อน
สำหรับต้นทุนราคาตะกั่วในขณะนี้ลดลงมาที่ 1.9 พันเหรียญสหรัฐ/ตันแล้ว หลังจากช่วงแรกของต้นปี 53 ปรับสูงขึ้นไปถึง 2.3-2.4 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน
"พูดยากเหมือนกันกรณีที่กรมการค้าภายในจะปรับราคาให้ เพราะยังไม่ได้มีการประกาศออกมาอย่างชัดเจน บอกแค่ว่าจะให้ปรับ และอีกอย่างผู้ประกอบการขอมานานแล้วด้วย แต่ส่วนตัวถ้าให้ผมมองเชื่อว่ายังเพราะราคาตะกั่วตอนนี้ผันผวน ราคาตอนนี้ก็ปรับลดลงไม่สูงเหมือนปีที่ผ่านมาที่ขึ้นสูงน่ากลัว"นายวีรวัฒน์ กล่าว
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทเองก็คงจะยังไม่ปรับขึ้นราคาเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการแข่งขันเข้ามามีบทบาทมากและน่าจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะโปรโมชั่นที่บริษัทต่าง ๆ ทยอยเปิดตัวออกมาหลังจากต้นทุนเริ่มลดลง ดังนั้น การปรับตัวและการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในขณะนี้
โดยในส่วนของบริษัทได้รองรับราคาตะกั่วที่ผันผวนด้วยการบริหารสต็อคทั้งวัตถุดิบและสินค้าลดลงเหลือ 15 วัน จากเดิม 1 เดือน ประกอบกับการที่บริษัทรักษาสมดุลสัดส่วนการจำหน่ายภายในและต่างประเทศที่เท่า ๆ กัน เชื่อว่าจะสามารถป้องกันความเสี่ยงได้
นายวีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ภายใต้ความผันผวนของต้นทุนสำคัญ แต่บริษัทยังเชื่อว่าความสามารถในการสร้างรายได้ปีนี้ยังเป็นไปตามที่ประเมินไว้ที่ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 3,500-3,700 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมของแบตเตอรี่ในตลาด Re-placement น่าจะปรับตัวสูงขึ้น และตลาดรถยนต์ที่เติบโตขึ้นจากปีก่อน
ขณะเดียวกัน บริษัทก็จะมีการขยายตลาดต่างประเทศในแถบยุโรปมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น) เพราะตลาดต่างประเทศให้มาร์จิ้นสูงกว่าการจำหน่ายในประเทศ และยังเป็นการเพิ่มรายได้ที่มากขึ้นด้วย