นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทคาดว่าจะมียอดขาย อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เป็นการตั้งเป้าหมายแบบระมัดระวัง ขณะที่ปี 52 มียอดขายจำนวน 1.9 พันล้าน ซึ่งเป็นยอดขายที่สูง และมากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1.4-1.5 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นผลจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงปลายปี 52 หลายโครงการ
อย่างไรก็ตาม มองว่าในปี 53 สิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ คือการวางกลยุทธภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ และธุรกิจให้เช่า 1 โครงการ ซึ่งมีความคืบหน้าไปแล้ว 80% โดยได้วางแผนพื้นที่ธุรกิจให้เช่า 40,000 ตร.ม. จะแบ่งเป็นที่พักอาศัยให้เช่า และรีเทล
นางเกษรา กล่าวอีกว่า ในปี 53 บริษัทตั้งเป้าหมายที่รายได้เติบโต 20% จากรายได้ 1.5 พันล้านบาทในปี 52 เนื่องจากจะมีโครงการเดิมที่ทยอยรับรู้รายได้ และมี backlog ในปี 52 อีก 600 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากคอนโดมิเนียม ขณะที่ GP อาจปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากปกติที่ GP อยู่ที่ 40-50% เนื่องจากพอร์ตรายได้ในปี 53 จะมาจากคอนโดมิเนียมมากขึ้นเป็น 70% จากเดิมอยู่ที่ 50% ส่วนบ้านเดี่ยวจะลดลงเหลือ 30% จากเดิมอยู่ที่ 50%
ขณะที่การจัดซื้อที่ดินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชนะคู่แข่งนอกเหนือจากกระแสเงินสด ซึ่งในปีนี้ได้จัดงบจัดซื้อที่ดินจำนวน 700 ล้านบาท ได้ทยอยซื้อที่ดินแล้ว 2 แปลง เพื่อทำคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบ และจะทยอยซื้อที่ดินเพิ่มเติม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาจัดซื้อที่ดินเพิ่ม 1 แปลง เพื่อพัฒนาเป็นโครงการแนวราบ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ บริษัทยังไม่มีความจำเป็นในการระดมเงินโดยการออกหุ้นกู้ เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทยังมีสภาพคล่องเพียงพอ และมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน เนื่องจาก D/E ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะต้องจัดซื้อที่ดินเพิ่ม และทำให้ D/E สูงขึ้นก็ตาม แต่ยังไม่ถึง 1 เท่า ขณะที่ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จะมี D/E เฉลี่ยที่ 1 เท่า ขณะเดียวกันต้นทุนการกู้เงินจากสถาบันการเงินยังต่ำกว่าการออกหุ้นกู้
สำหรับกลยุทธการแข่งขันคอนโดมิเนียมในปีนี้ บริษัทจะปรับเปลี่ยนวิธีการออกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะภายใต้แบรนด์ คอนโดมิเนียม เดอะนีช ที่มีระดับราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แต่บริษัทจะออกคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่ ชื่อ เดอะคิทท์ เป็นคอนโดมิเนียม 6 ชั้น ระดับราคา 7-9 แสนบาท ย่านแจ้งวัฒนะ มูลค่า 600 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงต้น มี.ค.53 จะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น เนื่องจากเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าบ้านบีโอไอ
สำหรับราคาหุ้น SENA ยอมรับว่า ไม่หวือหวาแต่เชื่อว่ายังคงนโยบายในการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง และมองว่าผลการดำเนินงานที่มีทิศทางที่ดีขึ้น จะสนับสนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้เอง ส่วนการจ่ายเงินปันผล ปี 52 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทช่วงปลายเดือน ก.พ.53 จะพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งนโยบายของบริษัทจ่ายเงินปันผล 40%ของกำไรสุทธิ