นายประเสริฐ บุญประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT)คาดว่า การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(IA)ของโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดในเครือ PTT จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน พ.ค.- มิ.ย.53
ขณะนี้โครงการหลักๆที่ลงทุนในมาบตาพุด ได้มีการเก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่ต้องการให้ล่าช้าไปมากกว่านี้ เพราะหากรอเวลาให้มีการออกระเบียบกฎเกณฑ์ด้านสิงแวดล้อมและสุขภาพ รวมทั้งการจัดตั้งองค์กรอิสระ แล้วค่อยจัดทำ HIA จะยิ่งทำให้ล่าช้าออกไป แต่บริษัทก็พร้อมที่จะดำเนินการเพิ่มเติมหากมีข้อกำหนดใหม่ๆ ออกมา
อย่างไรก็ตาม การที่โครงการในมาบตาพุดไม่สามารถดำเนินการได้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีปัญหาด้านเงินทุนมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่อย่างเครือ ปตท.และเครือซิเมนต์ไทย
สำหรับ ปตท อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง ตามที่รัฐบาลเสนอโดยคาดว่าจะยื่นภายในเดือนนี้ตามกำหนด
"ตอนนี้มีหลายโครงการที่บริษัทเตรียมจะยื่นต่อศาลปกครองสูงสุด เชื่อว่า รายละเอียดที่เสนอและความร่วมมือของทุกฝ่ายจะทำให้มีทางออกที่ดีที่สุด" นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายชายน้อย เผื่อนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTT และประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด จำนวน 6 โครงการภายในวันที่ 19 ก.พ.นี้ รวมโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 ซึ่งทาง ปตท.มีความหวังว่าจะสามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะโครงการโรงแยกก๊าซ 6 เพราะได้ใบอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญปี 50 จะมีผลบังคับใช้ และโครงการผ่านการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)แล้ว
"เชื่อว่าโครงการนี้(โรงแยกก๊าซ 6)ไม่มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด และกรณีของโครงการอื่นๆ ก็น่าจะดำเนินการไปได้ด้วยดี บริษัทพร้อมที่จะทำทุกช่องทางเพื่อให้โครงการดำเนินการต่อไปได้"นายชายน้อย กล่าว