นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า กลุ่มแสนสิริจัดแคมเปญแรกของปีนี้ Instant living with Sansiri เพื่อส่งเสริมการตลาดในการซื้อที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ของกลุ่มบริษัทแสนสิริ ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว โครงการคอนโดมิเนียม และโครงการทาวน์เฮาส์ จำนวนกว่า 170 ยูนิต ในทำเลที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ถึง 25 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,200 ล้านบาท
บริษัทเสนอเอกสิทธิ์พิเศษให้ลูกค้าในการรับ 3 โปรโมชั่นใหญ่ ได้แก่ 1. Financial Package ดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี และผ่อนค่าทำสัญญา 0% นาน 6 เดือน เมื่อชำระผ่านบัตร SCB Sansiri Platinum Card พร้อมรับบริการ SCB จ่ายไม่อั้น สินเชื่อวงเงินกู้อเนกประสงค์เติมเต็ม วงเงินกู้เดิม สามารถเบิกถอนได้ตลอดระยะเวลากู้ จากธนาคารไทยพาณิชย์
2. Living Package ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง และค่าส่วนกลาง เป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมรับฟรีค่าติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและประปา และ 3. Premium Package บ้านพร้อมอยู่แบบ Upgrade จำนวนจำกัด แคมเปญดังกล่าวนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้-26 มี.ค.52
"ผลจากมาตรการลดหย่อนภาษีภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมานั้น ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเป็นส่วนสำคัญ ที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าเป็นอย่างดี และจากมาตรการที่จะสิ้นสุดลงในปลายเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์กลับไปอยู่ที่ 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.01% ค่าธรรมเนียมการจดจำนองจะกลับไปอยู่ที่ 1% จากอยู่ที่ 0.01% ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะจะกลับไปอยู่ที่ 3.3% จาก 0.11% ทำให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2% ดังนั้นในแง่ของผู้บริโภคแล้ว ถือได้ว่าช่วงนี้เป็นโอกาสทองที่ดีที่สุด เพื่อจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์" นายเศรษฐา กล่าว
นอกจากนี้ จุดเด่นของแคมเปญ Instant Living with Sansiri ลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจะได้รับสิทธิพิเศษแห่งความสะดวกสบายด้านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและบริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย โดยสามารถเลือกรับโปรแกรม “SCB จ่ายไม่อั้น" จากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) หรือโปรแกรม“ซูเปอร์แจ๋ว" จากธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้เพิ่มเติมอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมด้านตลาดนี้จะเป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อโครงการที่อยู่อาศัยให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่ได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริไปแล้ว รวมถึงจะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ สนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยในปี 53 กลุ่มบริษัทแสนสิริมีพันธกิจที่สำคัญที่จะต้องส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าตามสัญญาเป็นมูลค่าเกือบ 16,500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดการโอนที่สูงมากในอันดับต้น ๆ ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกัน