BLS ชี้แจงกำไรสุทธิปี 52 เพิ่มขึ้น 64.38% จากรายได้เพิ่มขึ้น-คชจ.ลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 16, 2010 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง (BLS) ชี้แจงว่า กำไรสุทธิปี 52 ของบริษัท มีจำนวน 224.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.38% จากปี 51 เนื่องมาจากหลักการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ และรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจวาณิชธนกิจ รวมถึงการลดลงในส่วนของค่าใช้จ่าย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นรายการที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในปี 51

รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ได้เพิ่มขึ้น 104.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.64% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดโดยรวม และอัตราค่า นายหน้าโดยเฉลี่ยของบริษัทที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ เพิ่มขึ้นจาก 67.11 ล้านบาท ในปี 51 เป็น 79.61 ล้านบาท ในปี 52 คิดเป็นเพิ่มขึ้น 12.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.63% เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการซื้อขายของตลาดอนุพันธ์ แม้ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ มีจำนวน 161.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้ในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มี 116.53 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจ

กำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ มียอดสุทธิเป็นผลกำไรจำนวน 5.53 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรที่เกิดขึ้นจริงจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ในขณะที่ปี 51 บริษัทมียอดขาดทุนสุทธิจากการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากการทำรายการซื้อขายผิดพลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์

ดอกเบี้ยและเงินปันผล ลดลง 9.98 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของดอกเบี้ยรับ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ลดลง 34.50 ล้านบาท จากการลดลงของยอดเฉลี่ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์

ส่วนค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงิน ลดลงสุทธิ 3.51 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากเงินที่เป็นหลักประกันซึ่งลูกค้าวางไว้กับบริษัท ซึ่งลดลงตามอัตราดอกเบี้ยของตลาด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย เพิ่มขึ้นสุทธิ 8.76 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์

หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ (โอนกลับ) จากการลดลงของการตั้งสำรองจำนวน 74.70 ล้านบาทเป็นผลมาจากบริษัทไม่มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญขนาดใหญ่จากลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งเป็น รายการที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในปี 51

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 77.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.74% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงานซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรขั้นต้นของบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ