THCOM ลบ 0.79% มาที่ 6.25 บาท ลดลง 0.05 บาท เมื่อเวลา 10.20 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 6.25 บาท แตะจุดสูงสุดที่ 6.30 บาท และต่ำสุดที่ 6.25 บาท
น.ส.ธัญภัสร์ ช่วยชู ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.ไทยคม(THCOM)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า กระแสข่าวเทมาเส็กจากสิงคโปร์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) ที่ถือหุ้น THCOM จะขายหุ้นออกมานั้น คาดว่าเป็นประเด็นข่าวทางการเมืองก่อนการพิจารณาคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มากกว่า เพราะได้สอบถามเรื่องนี้ไปยังผู้บริหารของ SHIN ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆในเรื่องนี้
ดังนั้น นักลงทุนต้องใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ข้อมูล เนื่องจากผู้ที่จะข้ามาซื้อหุ้น THCOM จาก SHIN ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาในการเจรจาและต้องใช้เงินจำนวนมากในการเข้าลงทุน เนื่องจากสัดส่วนที่เทมาเส็กถือหุ้น 41% หากคำนวณราคาปัจจุบันในตลาดซื้อขายที่ระดับประมาณ 7.00 บาท/หุ้น ต้องใช้เงินจำนวนมาก และนอกจากมีฐานะการเงินเพียงพอแล้ว ยังจำเป็นต้องมีความสามารถในการบริหารเทคโนโลยีดาวเทียมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะทาง ดังนั้นแต่มีเงินอย่างเดียวคงไม่พอ
"THCOM ไม่ใช่หุ้นที่เย้ายวนให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนขนาดนั้น หากเจรจากนอกตลาดหรือเก็บหุ้นในตลาดก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ถ้าไม่มากก็ต้องมีความรู้ความสามารถด้านดาวเทียม มันเป็นธุรกิจเฉพาะ และได้เข้าไปถามที่ SHIN ก็ยังรักและไม่คิดจะขาย เราถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง พอมีคดียึดทรัพย์ก็มีข่าวและเพ่งล็งมาที่ THCOM ทั้งที่ SHIN ถือหุ้นในหลายบริษัท ยืนยันว่าดาวเทียวไทยคมเป็นของชาติไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง"น.ส.ธัญภัสร์ กล่าว
นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า กระแสข่าวเทมาเส็กจะขายหุ้น THCOM ที่ถือหุ้นโดย SHIN ที่ถือในสัดส่วน 41% ออกไปนั้นไม่น่าจะเกี่ยวปัจจัยพื้นฐาน มองว่าเป็นผลเชิงกลยุทธ์มากกว่า
แต่ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ คือ ปี 53 บริษัทจะพลิกมีกำไร โดยประเมินว่าจะมีกำไร 93 ล้านบาท ให้ราคาเป้าหมายที่ 9.50 บาท ซึ่งขณะนี้รอคอยการรับรู้รายได้จากไอร์พีสตาร์ที่อินเดียที่ล่าช้ามาตั้งแต่ต้นปี โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ในเดือนมี.ค.นี้ ถ้ารวมกับฐานลูกค้าไอร์พีสตาร์ ที่สำคัญอย่าง ญี่ปุ่น ออสเตรเลียจะส่งผลดีต่อบริษัท