SIRI คาดยอดขาย Q1/53 โต 10% เหตุคนเร่งซื้อก่อนมาตรการภาษีสิ้นสุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 16, 2010 12:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/53 คาดว่ายอดขายจะเติบโต 10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับอานิสงก์จากมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดลง ในเดือน มี.ค.53 ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจ อีกทั้งเป็นช่วงที่บริษัทยังมีการเปิดโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ "สราญสิริ ท่าข้าม"

ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ใกล้จะสิ้นสุดลงส่งผลให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น ซึ่งรวมถึงบริษัทได้มีการออกแคมเปญร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)นำโครงการที่อยู่อาศัย 170 ยูนิต จาก 25 โครงการ มูลค่า 1,300 ล้านบาท คาดว่าจากแคปเปญดังกล่าวจะทำให้ปิดการขายได้หมด รวมถึงอาจมียอดขายจากโครงการอื่น ๆ เพิ่มอีก ซึ่งรวมแล้วคาดว่าจะมียอดขายจากแคมเปญดังกล่าวรวมกว่า 2,000 ล้านบาท

"ในปีนี้ผมเชื่อว่าการเติบโตของเราจะดีขึ้น ทั้งในแง่ของรายได้ที่ 20,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อน ขณะที่กำไรจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่ปี 52 ผมมองว่ากำไรสุทธิน่าจะมากกว่าที่วางไว้ 1.5 พันล้านบาทเล็กน้อย แต่สิ่งสำคัญในปีนี้ผมมองว่าอยู่ที่กลยุทธของแต่ละแห่งว่านำมาใช้อย่างไรเพื่อกระตุ้นผู้บริโภค เพราะทุกคนก็มองว่ามาตรการภาษีฯจะต่อหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวอยากให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการภาษี เพราะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและยอดขายบ้านได้ มากหรือน้อยก็ยังดี"นายเศรษฐา กล่าว

นอกจากนี้บริษัทจะยังคงทยอยการเปิดโครงการในปี 53 อย่างต่อเนื่อง ตามแผนที่วางไว้ 20 โครงการ โดยจะทยอยเปิดโครงการหลายโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

กรรมการ SIRI กล่าวอีกว่า การขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 1.5 พันล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.53 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการกำหนดราคา การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีกระแสเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และยังเป็นการรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต

และในวันที่ 2 มี.ค.53 จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผล คาดว่าจะจ่ายได้สูงกว่าปี 51

นายเศรษฐา กล่าวให้ความเห็นถึง การตัดสินคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ว่า ไม่ควรจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้ตัดสินใจซื้อบ้านน้อยลง ขณะเดียวกัน ก็มองว่าประชาชนบางส่วนเริ่มที่จะชินชากับเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้น หากเหตุการณ์ไม่เลวร้ายมาก อาจจะเป็นผลดีต่อยอดขายที่อยู่อาศัยให้เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ