นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวงและในฐานะนายกสมาคมบลจ. เปิดเผยถึงกรณีหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่าทางบล.ภัทร จำกัด เป็นผู้จัดให้นักลงทุนสถาบันในประเทศได้พูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันโดยเฉพาะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลต่อการตัดสินใจและเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นบริการที่จัดพิเศษให้กับนักลงทุนสถาบัน
อย่างไรก็ตาม ในฐานะนายกสมาคม บลจ.ได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ความผันผวนในตลาดหุ้นที่อาจกระทบกับความมั่นใจของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยจะมีการออกจดหมายไปยัง บลจ.ทุกแห่งในวันพรุ่งนี้(17 ก.พ) เพื่อกำหนดามาตรการรองรับสถานการณ์หากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 26 ก.พ.ซึ่งเป็นวันตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ทางสมาคมฯ จะให้ความสำคัญในแง่การให้ข้อมูลต่อผู้ถือหน่วยลงทุนหากมีการถอนหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก และพิจารณาว่าจะมีการปิดสำนักงานหรือไม่ถ้ามีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น รวมทั้งด้านความปลอดภัยของพนักงานด้วย
ด้านนางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไทยพาณิชย์ เชื่อว่า ในวันที่ 26 ก.พ.คงจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง แต่ก็ไม่ไว้วางใจ โดยได้มีการเตรียมแผนในการรองรับสถานการณ์ไว้หากเกิดความรุนแรงไว้ 2 กรณี ซึ่งกรณีแรก ทางบริษัทจะเป็นผู้ตัดสินใจหยุดคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนในวันนั้นทันทีหากเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติ โดยแจ้งขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ก่อน และกรณีที่ 2 ทางสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้สั่งหยุด ซึ่งก็จะเป็นอัตโนมัติทันที
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเรียกประชุมพนักงานเพื่อวางแผนหากเกิดความรุนแรง และได้มีการหารือกับธนาคารพาณิชย์ในการเตรียมเม็ดเงินเพื่อรองรับสภาพคล่อง ถึงแม้ว่าปัจจุบัน บลจ.ไทยพาณิชย์จะมีการสำรองไว้ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(NAV)ซึ่งน่าจะเพียงพอก็ตาม
"เราได้เตรียมรับมือกับสิ่งที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม้ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ไว้วางใจอยู่ดีดังนั้นในวันนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยหากการตัดสินเสร็จในตอนเช้าก็จะดูว่ารุนแรงไหมและถ้ารุนแรงก็จะหยุดคำสั่งซื้อขายทันที แต่ถ้าเป็นช่วงบ่ายก็จะต้องดูว่าจะทำอย่างไรกับคนที่ส่งคำสั่งมาในช่วงเช้าแต่อย่างไรก็ตามไม่น่ากังวลและสามารถจัดการได้"นางโชติกา กล่าว
ด้านนางสาวจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า กองทุนเปิดต้องเตรียมสำรองสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วย สำหรับเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้ แต่กองทุนรวมจะหยุดเองไม่ได้ ยกเว้นเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ สำนักงาน ก.ล.ต.ก็พร้อมจะออกประกาศให้หยุดซื้อขายหรือไถ่ถอนหน่วยลงวทุน เช่น กรณีเหตุการณ์ 9-11 หรือ ทาง บลจ.ขอหยุดการซื้อขายหน่วยลงทุน เพราะเห็นว่าพอร์ตลงทุน เช่น หุ้น หรือ หุ้นกู้ หากขายออกมาก็จะทำให้ราคาขายมีส่วนลดมากก็จะกระทบกับสินทรัพย์ของกองทุนรวมได้ ก็ให้หารือผู้ดูแลผลประโยชน์ และต้องขอความเห็นชอบกับสำนักงาน ก.ล.ต.ก่อน
"ในช่วงนี้เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็ติดตามอย่างใกล้ชิด ทางสำนักงาน ก.ล.ต.ก็ได้มีการสื่อสารกับทางบล. และ บลจ. ให้ติดตามอย่างใกล้ชิด...แต่กองทุนอยู่ดีๆจะหยุดไม่ให้ผู้ถือหุ้น่วยซื้อขายไม่ได้ ถ้าไม่มีความจำเป็นสมควร" นางสาวจารุพรรณ กล่าว