ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) ขานรับธนาคารบาร์เคลย์สที่รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเกือบ 170 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 76.59 จุด หรือ 1.48% แตะที่ 5,244.06 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,167.47-5,248.08 จุด
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่ใช้วัดภาวะเงินเฟ้อและเป็นดัชนีหลักที่ธนาคารกลางอังกฤษใช้ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 3.5% ในเดือนม.ค. จากระดับ 2.9% ในเดือนธ.ค. ถือเป็นการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันและภาษีการขายที่สูงขึ้น
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สพุ่งขึ้น 6.8% หลังจากเปิดเผยว่า ธนาคารสามารถทำกำไรสุทธิได้ 6.9 พันล้านปอนด์ (1.08 หมื่นล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าระดับ 824 ล้านปอนด์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ขณะที่กำไรสุทธิทั้งปีขยายตัวแตะระดับ 9.4 พันล้านปอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากระดับ 4.4 พันล้านปอนด์ในปี 2551
หุ้นแองโกล อเมริกัน ซึ่งอยู่ในกลุ่มเหมือง ทะยานขึ้น 3.8% หลังจากแองโกล อเมริกัน ประกาศขายบริษัท ทาร์มัค ซึ่งเป็นธุรกิจก่อสร้างให้แก่บริษัทยูโรเวียของฝรั่งเศส
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดพุ่ง 3.9% หุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ปิดบวก 4.2% หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ปิดพุ่ง 4.5% และหุ้นเฟรสนิลโล ทะยานขึ้น 5.2%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยบวกหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคการผลิตในนิวยอร์กขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งเกินคาด โดยดัชนี Empire State Manufacturing Index เดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับ 24.91 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 18 จุด และมากกว่าเดือนม.ค.ที่ระดับ 15.92 จุด