GFPT พุ่ง 9.5% โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"ธุรกิจเติบโตดี-แตกพาร์ส่งผลดีต่อหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 18, 2010 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น GFPT ราคาพุ่งขึ้น 9.52% มาอยู่ที่ 46 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท มูลค่าซื้อขาย 85.17 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.44 น. โดยเปิดตลาดที่ 43 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 47.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 42.75 บาท

ล่าสุดเมื่อ 10.46 น.หุ้น GFPT อยู่ที่ 45.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท(+8.93%)มูลค่าซื้อขาย 86.17 ล้านบาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.จีเอฟพีที(GFPT)ยังคงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ GFPT ในระยะ 2 ปีข้างหน้า ที่คาดว่ากำไรจะโต 14% ต่อปี โดยเฉพาะในปี 54 ที่คาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างน่าประทับใจ 34%YoY ด้วยแรงหนุนจากแผนขยายกำลังผลิตไก่แปรรูปเพิ่มขึ้นอีก 40% ในกลางปี 53 และการเริ่มผลิตของบริษัทร่วม GFN ปลายปี 53

รวมทั้งราคาหุ้นปัจจุบันให้ปันผลตอบแทน 6% สำหรับปี 52 และยังมี Upside อีก 15% จากมูลค่าพื้นฐาน 48.50 บาท (PER 6 เท่าปี 53) ทำให้ GFPT น่าสนใจในการลงทุน อีกทั้งการแตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท ยังจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นด้วย

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น GFPT ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจว่าจะส่งผลดีต่อการขายให้เพิ่มขึ้น อีกทั้งหลังจากการแตกพาร์แล้วเสร็จคาดว่า GFPT จะมีสภาพคล่องการซื้อขายที่ดีขึ้นกว่าในอดีต โดยให้ราคาเหมาะสม 51 บาทอิงบน P/E 6 เท่า

GFPT ประกาศผลดำเนินงานปี 2552 กำไรสุทธิ 1,068 ล้านบาทลดลง 1% เทียบ YoY จาก 1,076 ล้านบาท โดยไตรมาส 4 กำไรสุทธิ 395 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 22% เทียบ YoY แต่ลดลง 4% เทียบ QoQ ดีกว่าที่คาดไว้จากอานิสงส์ของวัตถุดิบราคาถูกทำให้อัตรากำไรดีกว่าคาด

ส่วนที่ GFPT ปันผลที่ 2.50 บาท/หุ้น ซึ่งจ่ายจากส่วนที่ได้รับ BOI ทั้งจำนวน โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD 5 เม.ย. 2553 และจ่ายเงินปันผล 6 พ.ค. 553 พร้อมกันนี้บริษัทได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงราคาพาร์เป็น 1 บาทช่วยให้สภาพคล่องหุ้นดีขึ้น

ด้านบล.พัฒนสิน แนะ"ซื้อ"หุ้น GFPT ด้วยราคาเป้าหมาย 43.50 บาท (พีอีเป้าหมาย 6 เท่า) และมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2010-11F รวมทั้งราคาเป้าหมายขึ้นจากเดิม 43.50 บาท ราว 10% นอกจากนี้การแตกพาร์จาก 10 บาท เหลือ 1 บาทน่าจะทำให้ liquidity ของการเทรดหุ้น GFPT เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นจะลดจาก 40 บาท เหลือ 4 บาท แต่จำนวนหุ้นจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า จะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น จึงให้ GFPT เป็นหนึ่งใน TOP PICK

เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นจะทำให้มีความต้องการไก่ส่งออกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจะทำให้ความต้องการเนื้อไก่ในประเทศและการเลี้ยงไก่เพิ่มขึ้น สำหรับปี 2011F การเพิ่มกำลังการผลิตของ GFPT จะทำให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและความสามารถในการแข่งขัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ