นายกฤช กุลเนตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เน็ทเวิร์ค แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอสซีจี(SCG)เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 25% หรือเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและได้รับแรงหนุนจากนโยบายไทยเข้มแข็งของภาครัฐ ส่งผลให้การก่อสร้างบ้านมีแนวโน้มขขายตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ จากสัญญาณที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทวางกลยุทธ์ในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้า โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่เอสซีจีไม่ได้ผลิตเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยจะมีการเน้นการจัดแสดงและแนะนำสินค้าใหม่ ๆ ให้กับกลุ่มผู้แทนสินค้าที่ปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 500 ร้านทั่วประเทศ
บริษัทมีพันธมิตรทางการค้าอยู่จำนวน 250 บริษัท และมีสินค้าที่จัดจำหน่ายกว่า 2 หมื่นรายการ ได้แก่ กลุ่มสินค้าเหล็ก ประตูและอุปกรณ์ เป็นต้น
นายกฤช กล่าวต่อว่า ในปี 53 บริษัทได้วางงบการตลาด 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 เนื่องจากรองรับดีมานด์ของผู้บริโภคที่ขยายตัวมากขึ้นในการก่อสร้างบ้านตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่ายอดขายในปีนี้จะมาจากการขายผ่านโฮมมาร์ท 85% ขายผ่านโครงการ 15% อีกทั้งในปีนี้จะเพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์เพื่อรองรับลูกค้าเพิ่มอีกทางด้วย
บริษัทเชื่อว่าปีนี้การก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยเห็นจากการสร้างบ้านใหม่ปี 53 มากถึงกว่า 5 แสนหลัง ซึ่งเป็นการก่อสร้างในกรุงเทพฯ 1.4 แสนหลัง เป็นคอนโดมิเนียม 50%, บ้านเดี่ยว 40% และทาวน์เฮ้าส์ 10% ที่เหลือเป็นตลาดต่างจังหวัด ถือว่าเป็นตลาดใหญ่มาก ซึ่งการที่บริษัทมีตัวแทนจำหน่าย 500 ร้านทั่วประเทศ จึงน่าจะสอดคล้องกับความต้องการในต่างจังหวัดที่มีอยู่มากด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบที่ยังต้องระวังทั้งเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง ปัญหาการเมืองในประเทศ ปัญหามาบตาพุด รวมถึงราคาน้ำมันและดอกเบี้ยมีทิศทางเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนการที่บริษัทไปลงทุนใน บมจ.ควอลีตี้ คอนสตรัคชั่น (Q-CON) นั้น อยู่ในกระบวนการและขั้นตอนทำคำเสนอซื้อเสร็จภายในปลาย ก.พ.-ต้น มี.ค.53 ซึ่งหลังจากเข้าลงทุนจะไม่มีการควบรวมธุรกิจเข้าไว้ด้วยกัน