นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท(PS) คาดว่ายอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/53 ทำได้สูงกว่าไตรมาส 1/52 เนื่องจากในช่วง 2 เดือนแรกมียอดขายสูงกว่าเป้าหมายมาก โดยเดือน ม.ค.ทำยอดขายได้ถึง 2.22 พันล้านบาท และช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือน ก.พ.53 ก็ทำได้แล้วกว่า 2 พันล้านบาท แต่คงไม่สามารถเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 52 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้
"ยอดขาย ณ สิ้นเดือนม.ค.53 ได้แล้ว 2,222 ล้านบาท และ 3 สัปดาห์ของเดือนก.พ.ก็ทะลุ 2,222 ล้านบาท จึงคาดว่ายอดขายไตรมาส 1/53 จะมากกว่างวดเดียวกันปีก่อน(ที่แย่มาก) แต่ถ้ากับไตรมาส 4/52 คงคงยากเพราะเป็นช่วง peak มากและมีการโอนก้อนใหญ่มาจากคอนโดฯ เยอะ"นายทองมา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 53 ไว้ที่ระดับ 29,000 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 27% จากปีก่อน โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 50 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 16 โครงการ บ้านเดี่ยว 14 โครงการ คอนโดมิเนียม 16 โครงการ และโครงการใหม่ในต่างประเทศ 4 โครงการ
บริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ มัลดีฟ เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งการลงทุนในอินเดียคาดว่าเข้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองเชนไน บังกาลอร์ และ มุมไบ ลงทุนแห่งละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่มุมไบจะเป็นการร่วมทุนที่ PS เข้าถือหุ้น 50% ที่บังกาลอร์พัฒนาเองทั้งหมด 100% และที่เชนไน PS ถือหุ้น 70%
ขณะที่มัลดีฟมีโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ขนาด 4-5 ชั้น จำนวน 2400 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรก 650 ยูนิต มูลค่า 1500 ล้านบาท คาดเริ่มขายในไตรมาส 1/53 หรือต้นไตรมาส 2/53 ส่วนโครงการเดิมที่เวียดนามเป็นคอนโดมิเนียม 3 ชั้นกึ่งทาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท
นายทองมา คาดว่า ในปี 53 การพัฒนาโครงการในอินเดียน่าจะมียอดขายราว 1,500 ล้านบาท และรายได้ 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เวียดนามน่าจะมียอดขาย 500 ล้านบาท และรายได้ 400 ล้านบาท
ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ฐานะการเงินของบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่งไม่ต้องระดมทุน ปัจจุบัน มีกระแสเงินสด 3,150 ล้านบาท มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยแค่ 2,130 ล้านบาท ขณะที่อัตราการปฏิเสธสินเชื่อก็ลดลงเรื่อยๆ ณ เดือนม.ค.ลดลงเหลือแค่ 17% จากปี 52 ที่ 25% และปี 51 ที่ 28% โดยทั้งปี 53 คาดว่าจะลดเหลือ 20% เพราะ segment คอนโดมิเนียมมีความเสี่ยงต่ำ ลูกค้าไม่ทิ้ง
"เปอร์เซนต์การถูกปฏิเสธสินเชื่อต่ำมาก แต่ตัวที่ลดฮวบฮาบมาจากพอร์ตคอนโดฯ ปี 53 บริษัทยังคงรุกคอนโดฯมากขึ้น คอนโดปีนี้เป็นสิ่งท้าทาย" นายประเสริฐ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอนกว่า 15,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 9,784 ล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้ฯ ในเป็นปีถัด ๆ ไป ส่วนสถานการณ์การเมืองไม่น่ากังวล เราก็ต้องปรับตัวและการที่เราไม่มีหนี้ก็เป็นผลดี
"ถึงแม้การเมืองจะไม่แน่นอน แต่ตัวเลข ม.ค.พรีเซล 2,222 ล้านบาท เติบโต 133% จากงวดเดียวกันปีก่อน นี่แค่ทาวน์เฮาส์กับบ้านเดี่ยวเท่านั้น ยังไม่ได้เปิดคอนโดฯ และ 3 สัปดาห์ของก.พ.ก็ถึง 2,222 ล้านบาทแล้ว ถ้าเปิดคอนโดฯใหม่ เพราะฉะนั้น 29,000 ล้านบาทปีนี้คิดว่าสบาย"นายประเสริฐ กล่าว