โบรกเชียร์"ซื้อ"AOT คาดปี 53 กำไรพุ่ง 280% จากท่องเที่ยว-เที่ยวบินฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 22, 2010 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะซื้อหุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)แม้ผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/53(ต.ค.-ธ.ค.52)ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ จากค่าใช้จ่ายภาษีสูง แต่มองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/53(ม.ค.-มี.ค.53)จากปริมาณการจราจรทางอากาศและนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนขึ้นมาก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเป็นช่วงไซซีซั่นของปี

ทั้งงวดปี 53 คาดว่าบริษัทยังทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง จากเหตุผลเดียวกัน ประกอบกับมาตรการลดค่าบริการเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการ สายการบินต่าง ๆ หมดลงตั้งแต่สิ้นปี 52 และการประกาศนโยบายเชิงรุกของผู้บริหารที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่นอกเหนือจากการบินให้เพิ่มมากขึ้น จะเป็นตัวผลักดันกำไรในปีนี้ให้ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรในงวดปี 52/53 อยู่ในช่วง 2,800-2,811 ล้านบาท เติบโตถึง 286-292% จากปี 51/52

          โบรกเกอร์                คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)

          บล.เคจีไอ                  ซื้อ              52.50
          บล.ทรีนิตี้                   ซื้อ              50.00
          บล.บัวหลวง                 ซื้อ              48.00
          บล.เอเซียพลัส               ซื้อ              46.20
          บล.ธนชาต                  ซื้อ              54.00
          บล.ยูไนเต็ด                 ซื้อเมื่ออ่อนตัว      37.00
          บล.เกียรตินาคิน              ซื้อลงทุน          45.00

นางสาวศิริมา ดิสสรา นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้น AOT เนื่องจากแนวโน้มผลดำเนิยงานปี 52/53 (ต.ค.52-ก.ย.53)ปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว แม้ว่าผลดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 1/53 (ต.ค.-ธ.ค.52)มีกำไร 798 ล้านบาทต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากบริษัทมีใช้จ่ายจากการจ่ายภาษีที่สูงกว่าที่คาด

แต่ไตรมาส 2/53 (ม.ค.-มี.ค.53)ยังมีแนวโน้มดีขึ้นจากปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ประกอบกับสภาวะอากาศหนาวอย่างรุนแรงในปีนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบิน รวมถึงการสิ้นสุดของมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินที่สิ้นสุดในเดือน ธ.ค.52 จะช่วยหนุนกำไรในไตรมาสนี้ต่อไป

ทั้งนี้ ในงวดปี 52/53 มองว่าบริษัทยังมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 2,800 ล้านบาท เติบโต 286% ภายใต้ประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 6.5% แต่ยังมีความเสี่ยงทางธุรกิจที่จำนวนนักท่องเที่ยวอาจลดลงจากปัญหาจากปัญหาการเมือง แต่เรื่องดังกล่าวถึงเป็นเหตุการณ์ที่มีมาตลอดแล้ว อาจส่งผลกระทบไม่มาก ขณะที่ฐานนักท่องเที่ยวปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ

"ในไตรมาส 1 ที่ผลประกอบการของบริษัทน้อยลงกว่าที่คาด เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เป็นภาษีที่สูง ขณะที่มองว่าทั้งปีนี้ บริษัทไม่น่าจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ อีก ซึ่งผลการดำเนินงานของ AOT ทั้งปี ได้ประเมินแบบ conservative แล้ว" นางสาวศิริมา กล่าว

ขณะที่นายอดิศักดิ์ พรหมบุญ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ ระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาส 1/53 ต่ำกว่าคาดการณ์ เนื่องจากมีรายการพิเศษขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และจ่ายภาษีล่วงหน้าไว้มากกว่าคาด แต่หากหักผลกระทบดังกล่าวถือว่าผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสนี้อยู่ในระดับน่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน

ส่วนตั้งแต่ไตรมาส 2/53 คาดว่ากำไรบริษัทจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ หลังจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยและช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการหมดอายุลงเมื่อสิ้นปี 52 ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เห็นได้จากไตรมาส 1/53 ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 15.29 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ถือเป็นสัญญาณบวกต่อบริษัท ส่วนจำนวนเที่ยวบินรวมถึงปริมาณขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เพิ่มขึ้น 20%

นอกจากนี้ ผู้บริหาร AOT เริ่มใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคต ทั้งรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบิน จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้ที่เกี่ยวกับการบินและรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบินเท่ากับ 60:40 เป็น 50:50 และท้ายที่สุดจะเป็น 40:60

ด้านบทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง มองว่า หลังจาก AOT ได้ประกาศตัวเลขสถิติการจราจรทางอากาศในเดือนม.ค.53 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ต่อเนื่อง จำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 5.7 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 35,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเดือนก่อน และ เพิ่มขึ้น14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน น่าจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นในระยะสั้น

นอกจากนี้ คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะทรงตัวที่ระดับสูงจนถึงเดือนเม.ย.53 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวก็เป็นอีกปัจจัยหลักผลักดันความอุปสงค์ต่อการเดินทางทางอากาศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักผลักดันกำไรไตรมาส 2/53 และยังมีแนวโน้มที่ผลประกอบการจะสูงกว่าประมาณการ

ดังนั้น ในปี 53 คาดว่า AOT จะมีกำไรสุทธิ 2,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 292% เทียบปีก่อน จากตัวเลขสถิติการจราจรทางอากาศฟื้นตัวแข็งแกร่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ